ทำฟัน จัดฟัน นัดปรึกษาฟรี : @iDentistClinic

ฟันคุด มีกี่แบบ สาเหตุ อาการ ปวดฟันคุด รักษายังไง

ฟันคุดคืออะไร

ฟันคุด คือฟันกรามซี่สุดท้ายที่อยู่ด้านในสุดของขากรรไกร บนและล่าง ซึ่งเป็นฟันที่ควรจะขึ้นในช่วงอายุ 17-25 ปี แต่กลับไม่สามารถขึ้นได้ตามปกติในช่องปาก ไม่ว่าจะโผล่พ้นเหงือกมาเพียงบางส่วน หรือฝังอยู่ในกระดูกขากรรไกรทั้งหมด

ลักษณะของฟันคุด

 มีลักษณะการเรียงตัวที่ผิดปกติ เนื่องจากไม่มีพื้นที่เพียงพอให้ขึ้นได้เต็มที่ หรือมีฟันซี่อื่น ๆ ขวางอยู่ ทำให้เกิดปัญหาได้หลากหลาย ขึ้นซ้อนกันหรือเบียดกัน อาจจะพยายามดันฟันซี่ข้างเคียง ทำให้ฟันซี่ข้าง ๆ โยก หรือเกิดการผุตามมาได้ ยื่นออกมาจากแนวฟันเดิม ในบางกรณี อาจจะขึ้นมาในตำแหน่งที่ผิดปกติ เช่น ยื่นออกมาจากแนวฟันปกติ ฝังอยู่ในกระดูกขากรรไกร เป็นลักษณะที่พบได้บ่อยที่สุด โดยอาจจะมองไม่เห็นจากภายนอกเลย และต้องตรวจด้วยภาพเอกซเรย์เท่านั้น

รูปแบบการขึ้นของฟันคุด

ทันตแพทย์มักจะจำแนกรูปแบบการขึ้นของฟัน ตามทิศทางและตำแหน่งที่ฟัน ฝังตัวอยู่ ซึ่งมีผลต่อความยากง่ายในการรักษาและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ดังนี้


ฟันคุดขึ้นในแนวตั้ง (Vertical Impaction) ฟัน มีลักษณะตั้งตรงเหมือนฟันปกติ แต่ไม่สามารถขึ้นได้เต็มซี่ อาจโผล่พ้นเหงือกมาบางส่วนหรือฝังอยู่ใต้เหงือกและกระดูก ฟัน ชนิดนี้มีโอกาสที่จะขึ้นได้เหมือนฟันปกติหากมีพื้นที่เพียงพอ

ฟันคุดขึ้นในแนวนอน (Horizontal Impaction) ฟัน วางตัวในแนวราบ โดยส่วนหัวของฟันชี้ไปทางรากของฟันซี่ข้างเคียง เป็นรูปแบบที่มักจะฝังตัวอยู่ในกระดูกทั้งหมด และเป็นฟัน ที่มักจะถอนออกได้ยากที่สุด

ฟันคุดขึ้นแนวเฉียง (Mesioangular Impaction หรือ Distoangular Impaction) Mesioangular Impaction (ล้มไปด้านหน้า) ส่วนหัวของฟันเอียงไปทางด้านหน้าของช่องปาก หรือชี้ไปทางฟันกรามซี่ที่สอง เป็นรูปแบบที่พบบ่อยที่สุด Distoangular Impaction (ล้มไปด้านหลัง) ส่วนหัวของฟันเอียงไปทางด้านหลังของช่องปาก

สาเหตุหลักที่ทำให้ปวดฟันคุด

  1. พื้นที่ไม่พอให้ฟันขึ้น นี่คือสาเหตุหลักที่พบบ่อยที่สุด ขากรรไกรของคนเรามีขนาดจำกัด และเมื่อฟันพยายามจะขึ้นมา แต่กลับไม่มีพื้นที่เพียงพอ ฟันก็จะเบียด ดัน หรือชนกับฟันซี่ข้างเคียงหรือกระดูกขากรรไกร ทำให้เกิดแรงกดและอาการปวด
  2. ฟัน คุดขึ้นผิดตำแหน่ง ฟันเอียงหรืออยู่ในแนวราบ แทนที่จะขึ้นตรงๆ ฟันอาจจะเอียงไปชนกับฟันซี่ข้างหน้า หรือนอนราบอยู่ในกระดูก ทำให้เกิดแรงกระแทกหรือแรงกดต่อฟันซี่ข้างเคียงและเส้นประสาทบริเวณนั้น ฟันขึ้นได้ไม่เต็มซี่ ฟันอาจจะโผล่พ้นเหงือกมาเพียงบางส่วน ทำให้มีช่องว่างระหว่างเหงือกกับฟัน ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของเศษอาหารและแบคทีเรียได้ง่าย
  3. เหงือกอักเสบ (Pericoronitis) เมื่อฟันขึ้นมาเพียงบางส่วน จะมีเหงือกคลุมทับอยู่ด้านบน การทำความสะอาดบริเวณนี้ทำได้ยาก ทำให้เศษอาหารและแบคทีเรียสะสมอยู่ใต้เหงือก ก่อให้เกิดการอักเสบ บวม แดง และมีอาการปวดอย่างรุนแรง บางครั้งอาจมีหนองไหลออกมาด้วย
  4. ฟัน คุดผุ หรือฟันซี่ข้างเคียงผุ ตำแหน่งของฟันที่อยู่ลึกด้านในสุดของช่องปากและขึ้นในลักษณะที่ไม่ปกติ ทำให้ทำความสะอาดได้ยากมาก เศษอาหารจึงมักจะติดอยู่ และทำให้ฟันหรือฟันกรามซี่ที่สองที่อยู่ติดกันเกิดฟันผุได้ง่าย เมื่อฟันผุลึกถึงโพรงประสาทฟันก็จะทำให้เกิดอาการปวด
  5. การเกิดถุงน้ำ (Cyst) หรือเนื้องอก ในบางกรณี ฟันที่ฝังอยู่ใต้กระดูกเป็นเวลานานอาจจะทำให้เกิดถุงน้ำรอบๆ ฟัน ซึ่งจะค่อยๆ ขยายขนาดและทำลายกระดูกขากรรไกร ทำให้เกิดอาการปวดหรือไม่ปวดก็ได้ แต่หากถุงน้ำมีขนาดใหญ่ขึ้นมากก็จะสร้างแรงกดและอาจทำให้เกิดการปวดได้
  6. แรงกดขณะเคี้ยวอาหาร แม้ว่าฟันจะยังไม่ขึ้นมา แต่การที่ฟันพยายามจะดันตัวขึ้นมา หรือเมื่อมีเศษอาหารเข้าไปติดและถูกบดเคี้ยว ก็สามารถสร้างแรงกดทับต่อเหงือกและฟันบริเวณนั้น ทำให้เกิดอาการปวดได้

สัญญาณเตือนที่ควรรีบไปพบทันตแพทย์ หากคุณมีอาการปวดฟัน ที่รุนแรง เหงือกบวม มีไข้ อ้าปากได้น้อย หรือกลืนน้ำลายแล้วเจ็บคอ ควรรีบไปพบทันตแพทย์ทันที เพราะอาจเกิดการติดเชื้อที่รุนแรงได้ครับ การผ่าฟัน ออกมักเป็นทางออกที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้ในระยะยาว

อาการที่บ่งบอกว่าฟัน คุดอักเสบ

  1. ปวด ปวดรุนแรง และปวดตุบๆ มักเป็นอาการแรกที่สังเกตได้ อาจเริ่มจากปวดเล็กน้อยแล้วค่อยๆ ทวีความรุนแรงขึ้น ปวดร้าว อาการปวดอาจไม่จำกัดอยู่แค่บริเวณฟัน  แต่อาจร้าวไปที่หู คอ ขากรรไกร หรือแม้แต่ศีรษะได้ ปวดขณะเคี้ยวหรือกัด การบดเคี้ยวอาหารจะทำให้เกิดแรงดันบนเนื้อเยื่อที่อักเสบ ทำให้ปวดมากขึ้น ปวดเวลาอ้าปาก บางรายอาจเจ็บมากจนอ้าปากได้ไม่สุด หรือมีอาการขากรรไกรค้าง (Trismus)
  2. เหงือกบวมแดง บริเวณเหงือกที่คลุมฟัน จะบวมเป่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เหงือกจะมีสีแดงสดหรือแดงเข้มกว่าปกติ เนื่องจากมีการอักเสบและเลือดมาเลี้ยงบริเวณนั้นมากขึ้น เจ็บเมื่อสัมผัส เหงือกบริเวณที่อักเสบจะไวต่อความรู้สึก เจ็บเมื่อสัมผัสหรือแปรงฟัน
  3. มีหนอง หนองไหล อาจสังเกตเห็นหนองสีเหลืองหรือขาวขุ่นไหลออกมาจากใต้เหงือกที่คลุมฟัน รสชาติไม่ดีในปาก หนองที่ไหลออกมาอาจทำให้มีรสชาติไม่พึงประสงค์ในปาก
  4. กลิ่นปาก กลิ่นปากรุนแรง การสะสมของแบคทีเรียและเศษอาหารใต้เหงือกที่อักเสบ ร่วมกับหนอง จะทำให้เกิดกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์อย่างมาก
  5. อาการติดเชื้อทั่วไป (ในกรณีที่รุนแรง)
    • มีไข้ ร่างกายอาจมีไข้ต่ำๆ หรือไข้สูง เพื่อตอบสนองต่อการติดเชื้อ
    • ต่อมน้ำเหลืองโต ต่อมน้ำเหลืองบริเวณใต้คางหรือลำคออาจบวมและเจ็บ
    • ใบหน้าบวม การอักเสบที่รุนแรงอาจทำให้แก้มหรือใบหน้าบวมขึ้นในบริเวณที่ฟัน อยู่
    • กลืนลำบาก หากการติดเชื้อลุกลาม อาจทำให้รู้สึกเจ็บหรือกลืนลำบาก
    • อ่อนเพลีย อาจรู้สึกไม่สบายตัว อ่อนเพลีย เนื่องจากร่างกายกำลังต่อสู้กับการติดเชื้อ

เมื่อไหร่ที่ควรต้อง ผ่าฟันคุด

  1. เมื่อมีอาการ หรือปัญหาเกิดขึ้นแล้ว นี่เป็นสาเหตุที่ชัดเจนที่สุดและคนส่วนใหญ่จะมาพบทันตแพทย์ด้วยเหตุผลนี้
  • ปวดฟัน ไม่ว่าจะปวดเล็กน้อยหรือปวดรุนแรง ปวดเป็นๆ หายๆ หรือปวดต่อเนื่อง
  • เหงือกอักเสบ (Pericoronitis) มีอาการบวม แดง เจ็บที่เหงือกบริเวณฟัน  บางครั้งมีหนองไหล หรือมีกลิ่นปากร่วมด้วย
  • ฟัน คุดผุ หรือฟันซี่ข้างเคียงผุ เนื่องจากฟัน ขึ้นในตำแหน่งที่ทำความสะอาดยาก ทำให้เศษอาหารติดและเกิดฟันผุได้ง่าย ทั้งที่ตัวฟัน เองหรือฟันกรามซี่ข้างเคียง
  • ฟัน คุดดันฟันซี่ข้างเคียงจนเกิดปัญหา เช่น ฟันซี่ข้างเคียงโยก, ฟันซี่ข้างเคียงละลาย (resorption), หรือทำให้ฟันซี่อื่น ๆ ในช่องปากเกิดการเคลื่อนที่หรือเรียงตัวผิดปกติ (ฟันเก)
  • มีถุงน้ำ (Cyst) หรือเนื้องอก ฟันคุ ที่ฝังอยู่ในกระดูกขากรรไกรอาจกระตุ้นให้เกิดถุงน้ำหรือเนื้องอก ซึ่งสามารถขยายขนาดและทำลายกระดูกได้
  • อ้าปากได้ลำบาก หรือเจ็บคอ การติดเชื้อหรืออักเสบที่รุนแรงอาจลามไปที่กล้ามเนื้อรอบขากรรไกร ทำให้เกิดอาการอ้าปากได้ไม่สุด หรือกลืนลำบาก
  1. เมื่อทันตแพทย์ตรวจพบและแนะนำให้ผ่าออกเพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต (แม้ยังไม่มีอาการ)ทันตแพทย์มักจะแนะนำให้ผ่าฟัน ออกตั้งแต่เนิ่น ๆ แม้จะยังไม่มีอาการปวด เพราะ
  • ป้องกันปัญหาในอนาคต การผ่าออกก่อนที่ปัญหาจะเกิด ช่วยป้องกันอาการปวด อักเสบ ฟันผุ หรือการเคลื่อนตัวของฟันในอนาคต
  • ช่วงอายุที่เหมาะสม: ช่วงอายุ 16-25 ปี เป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการผ่าฟัน  เนื่องจาก ากฟันยังเจริญไม่เต็มที่ รากฟันมักจะยังไม่ยาวเต็มที่ หรือยังไม่ติดกับเส้นประสาทมากนัก ทำให้การผ่าตัดง่ายขึ้นและลดความเสี่ยงต่อการเกิดผลแทรกซ้อน เช่น อาการชาหลังผ่าตัด กระดูกรอบๆ ฟัน ยังไม่แข็งมาก ทำให้ง่ายต่อการกรอกระดูกและนำฟันออก การฟื้นตัวเร็ว ร่างกายจะฟื้นตัวได้เร็วกว่าเมื่อผ่าตัดในวัยที่อายุน้อยกว่า
  • ลักษณะการขึ้นของฟัน คุด หากฟัน มีลักษณะเอียง นอนราบ หรือฝังลึกในกระดูก ซึ่งมีแนวโน้มสูงที่จะก่อปัญหาในอนาคต ทันตแพทย์มักจะแนะนำให้ผ่าออก
  • การวางแผนการจัดฟัน ในบางกรณี ทันตแพทย์จัดฟันอาจแนะนำให้ผ่าฟัน ออกก่อนหรือระหว่างการจัดฟัน เพื่อให้ฟันเคลื่อนที่ได้ตามแผนการรักษา หรือป้องกันปัญหาฟันล้ม/เกหลังจัดฟัน

โดยสรุปแล้ว การผ่าฟัน ไม่ได้จำเป็นต้องรอให้มีอาการปวดเท่านั้น ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อตรวจประเมิน ตั้งแต่ในช่วงวัยรุ่นหรือวัยผู้ใหญ่ตอนต้น (ประมาณ 16-25 ปี) ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการผ่าตัด เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ การไม่ผ่าฟัน ออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ทันตแพทย์แนะนำให้ผ่าออก อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพช่องปากและปัญหาอื่นๆ ที่รุนแรงขึ้นได้ในอนาคต แม้ว่าบางคนอาจไม่มีอาการใดๆ เลย แต่ก็มีความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ นี่คือผลเสียที่อาจเกิดขึ้นได้หากไม่ผ่าฟัน 

ผลเสียของการไม่ผ่าฟัน คุด

  1. เหงือกอักเสบ (Pericoronitis) เป็นปัญหาที่พบบ่อยที่สุดและสร้างความเจ็บปวดอย่างมาก เกิดจากการที่ฟัน ขึ้นได้ไม่เต็มซี่ ทำให้มีเหงือกคลุมทับบางส่วน เกิดเป็นซอกเล็กๆ ที่เศษอาหารและแบคทีเรียเข้าไปสะสมได้ง่าย
  2. ฟันผุ ฟัน ผุ ตำแหน่งของฟัน ที่อยู่ลึกสุดในช่องปากและขึ้นในลักษณะที่ผิดปกติ ทำให้ทำความสะอาดได้ยากมาก ฟัน จึงผุได้ง่าย
  3. ฟันเก ฟันล้ม หรือฟันเคลื่อนที่ แรงดันจากฟัน ที่พยายามดันตัวขึ้นมาหรือเบียดฟันซี่ข้างเคียง อาจส่งผลให้ฟันซี่อื่น ๆ ในช่องปาก โดยเฉพาะฟันหน้าเกิดการเคลื่อนที่ เรียงตัวซ้อนเก หรือฟันล้ม สำหรับผู้ที่เคยจัดฟันมาแล้ว ฟัน อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ฟันกลับมาเกได้อีก
  4. ทำลายกระดูกและรากฟันข้างเคียง ฟัน ที่ดันฟันซี่ข้างเคียงเป็นเวลานาน อาจทำให้รากฟันของฟันซี่ข้างเคียงถูกทำลายหรือละลาย (resorption) นอกจากนี้ แรงดันจากฟัน ยังสามารถทำให้กระดูกรอบ ๆ ฟัน ถูกทำลาย หรือมีกระดูกบางลงในบริเวณนั้น
  5. การเกิดถุงน้ำ หรือเนื้องอก เป็นภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง แม้จะไม่พบบ่อยนัก เนื้อเยื่อที่หุ้มรอบฟัน ที่ฝังอยู่ในกระดูก อาจกลายเป็นถุงน้ำที่เต็มไปด้วยของเหลว (Odontogenic Cyst) ซึ่งจะค่อยๆ ขยายขนาด ทำลายกระดูกขากรรไกร และอาจทำให้ใบหน้าผิดรูปได้ ในบางกรณีที่หายากมาก ถุงน้ำเหล่านี้อาจกลายเป็นเนื้องอกได้ ซึ่งการรักษาก็จะซับซ้อนยิ่งขึ้น
  6. เป็นจุดอ่อนของขากรรไกร การมีฟัน ฝังอยู่ในกระดูกขากรรไกรบางตำแหน่ง โดยเฉพาะฟัน ที่ฝังลึกและใหญ่ อาจทำให้กระดูกขากรรไกรบริเวณนั้นบางลง กลายเป็นจุดอ่อน เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือได้รับแรงกระแทกบริเวณขากรรไกร กระดูกบริเวณที่มีฟัน ฝังอยู่อาจหักได้ง่ายกว่าปกติ
  7. มีกลิ่นปากเรื้อรัง การสะสมของเศษอาหาร แบคทีเรีย และหนองที่เกิดจากการอักเสบ จะทำให้เกิดกลิ่นปากที่ไม่พึงประสงค์อย่างมาก แม้จะแปรงฟันดีแล้วก็ตาม

แม้ว่าฟัน บางซี่อาจจะไม่มีปัญหาตลอดชีวิต แต่การปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ผ่าออกก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาเหล่านี้ขึ้นมาเมื่อใดก็ได้ และหากเกิดขึ้นในวัยที่สูงขึ้น การผ่าตัดก็จะยากขึ้น การฟื้นตัวช้าลง และมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่มากขึ้น ดังนั้น การปรึกษาทันตแพทย์ identistclinic เพื่อประเมินและวางแผนการรักษา @iDentistClinic