บริการทันตกรรมจัดฟัน
เลือกหัวข้ออ่านการจัดฟัน
iDentist Dental Clinic
ทันตกรรมจัดฟัน
การจัดฟันคืออะไร ทำไมถึงต้องจัดฟัน ?
การจัดฟันเป็นการรักษาแก้ไขความไม่สมดุลที่เกิดขึ้นจากการเรียงตัวของฟัน และการสบฟันที่ผิดปกติให้กลับไปสู่สภาพที่ปกติ ทำให้ฟันเรียงตัวดีขึ้นและ ส่งผลใหมีบุกลิกภาพที่ดีขึ้น ทันตแพทย์จะใช้เครื่องมือดัดฟันเพื่อปรับแรงทีโครงสร้างฟันเกิดการเคลื่อน ตัวของฟันในอัตราเฉลี่ย 1 มิลลิเมตร ต่อ 1 เดือน เป็นผลทำให้กระดูกที่ล้อม รากฟันจะเกิดการละลายและเสริมสร้างใหม่ของกระดูกแบบค่อยเป็นค่อยไป
ใครควรจัดฟัน ?
– ฟันหน้าไม่สบกัน การสบฟันลึก การสบฟันไขว้
– ขากรรไกรบนหรือล่างยื่น
– จำนวนฟันที่มีอยู่ขาดหายไปหรือเกินจำนวน
– ฟันนำ้นมหลุดหรือถอนก่อนและหลังเวลาอันควร
จัดฟันมีกี่แบบ?
การจัดฟัน มีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับปัญหาของฟัน ความต้องการของผู้ป่วย และงบประมาณ โดยทั่วไปสามารถแบ่งได้ดังนี้:
1. จัดฟันแบบโลหะติดแน่น (Metal Braces)
เป็นการติดเหล็กจัดฟันที่ด้านหน้าของฟัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันซ้อนเก หรือฟันสบผิดปกติ ข้อดีคือสามารถควบคุมตำแหน่งฟันได้ดีและมีค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก แต่มีข้อเสียคือเห็นเหล็กชัดเจน
2. จัดฟันแบบเซรามิกติดแน่น (Ceramic Braces)
คล้ายกับแบบโลหะแต่ใช้วัสดุเซรามิกที่มีสีใกล้เคียงกับฟัน จึงดูเป็นธรรมชาติมากกว่า นิยมใช้ในผู้ที่ต้องการความสวยงาม แต่ค่าใช้จ่ายสูงกว่าและอาจเปราะกว่าแบบโลหะ
3. จัดฟันแบบดามอน (Damon Braces)
ใช้เหล็กจัดฟันชนิดที่ไม่ต้องใช้ยางในการยึด ทำให้แรงเสียดทานลดลง ฟันเคลื่อนที่ได้เร็วกว่า และไม่ต้องปรับเครื่องมือบ่อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจัดฟันรวดเร็วและมีความสะดวกในการดูแล
4. จัดฟันแบบใส (Invisalign)
เป็นการจัดฟันแบบถอดได้ ใช้แผ่นใส (Clear aligners) ที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคล ใส่ครอบฟันเพื่อค่อยๆ เคลื่อนฟันไปยังตำแหน่งที่ต้องการ ดูเป็นธรรมชาติและสบายในการใช้ชีวิตประจำวัน แต่มีราคาค่อนข้างสูง
1. จัดฟันแบบโลหะติดแน่น (Metal Braces)
คือการจัดฟันโดยการติดตั้งเครื่องมือจัดฟันที่ทำจากโลหะไว้ที่ด้านหน้าของฟัน เครื่องมือประกอบด้วยแบร็กเก็ต (Bracket) โลหะที่ติดอยู่บนฟันแต่ละซี่และเชื่อมต่อกันด้วยลวดจัดฟัน โดยมีการใช้ยางดึงฟัน (O-Ring) หรือยางสีสันต่างๆ เพื่อช่วยยึดลวดเข้ากับแบร็กเก็ต
ข้อดีของการจัดฟันแบบโลหะติดแน่น
ความแข็งแรงทนทาน: เครื่องมือที่ใช้ทำจากโลหะ จึงทนต่อการใช้งานและสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้หลากหลาย
ค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก: เป็นตัวเลือกที่มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการจัดฟันแบบอื่นๆ เช่น แบบใส (Invisalign) หรือแบบเซรามิก
ควบคุมการเคลื่อนของฟันได้ดี: ทันตแพทย์สามารถปรับเครื่องมือได้อย่างละเอียดเพื่อให้ฟันเคลื่อนไปยังตำแหน่งที่ต้องการ
ข้อเสียของการจัดฟันแบบโลหะติดแน่น
มองเห็นได้ชัดเจน: เนื่องจากเครื่องมือเป็นโลหะ ทำให้มองเห็นได้จากภายนอก อาจมีผลต่อความมั่นใจของผู้ใส่
ทำความสะอาดยากขึ้น: การทำความสะอาดช่องปากต้องใช้เวลาและระมัดระวังมากขึ้น เพราะเศษอาหารอาจติดในซอกเครื่องมือได้ง่าย
อาจระคายเคืองช่องปาก: ในช่วงแรกๆ ที่ติดเครื่องมืออาจรู้สึกระคายเคืองริมฝีปากหรือเหงือกบ้าง จนกว่าจะปรับตัวได้
เหมาะกับใคร
การจัดฟันแบบโลหะติดแน่นเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาฟันซ้อนเกหรือฟันสบผิดปกติ ต้องการผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและไม่กังวลเรื่องความสวยงามมากนัก
2. จัดฟันแบบเซรามิกติดแน่น (Ceramic Braces)
คือการจัดฟันที่ใช้วัสดุเซรามิกที่มีสีใกล้เคียงกับฟันแทนการใช้โลหะ โดยจะติดเครื่องมือเซรามิกที่ฟันแต่ละซี่ และเชื่อมต่อกันด้วยลวด ซึ่งอาจใช้ลวดสีใสหรือสีขาวเพื่อลดความเด่นของเครื่องมือ ทำให้ดูเป็นธรรมชาติกว่าการจัดฟันแบบโลหะ
ข้อดีของการจัดฟันแบบเซรามิกติดแน่น
ความสวยงามและเป็นธรรมชาติ: เนื่องจากสีของเซรามิกใกล้เคียงกับสีฟัน ทำให้มองเห็นเครื่องมือได้น้อยกว่า จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสวยงามและต้องการให้ดูไม่สะดุดตา
ประสิทธิภาพในการจัดฟัน: สามารถแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟันและการสบฟันที่ผิดปกติได้ดี
ข้อเสียของการจัดฟันแบบเซรามิกติดแน่น
เปราะกว่าโลหะ: เซรามิกมีความเปราะบางกว่าโลหะ อาจแตกหรือเสียหายได้ง่ายกว่าเมื่อได้รับแรงกระแทกหรือแรงกัดที่รุนแรง
ค่าใช้จ่ายสูงกว่า: ราคาของการจัดฟันแบบเซรามิกจะสูงกว่าแบบโลหะ
อาจเกิดคราบสี: เซรามิกอาจดูดซับสีจากอาหารหรือเครื่องดื่มบางชนิด เช่น กาแฟ ชา หรืออาหารที่มีสีเข้ม ทำให้เกิดคราบบนแบร็กเก็ตได้
เหมาะกับใคร
การจัดฟันแบบเซรามิกติดแน่นเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจัดฟันอย่างมีประสิทธิภาพแต่ยังต้องการความสวยงามเป็นธรรมชาติ เช่น ผู้ที่ต้องการความมั่นใจในระหว่างการจัดฟันหรือทำงานที่ต้องพบปะผู้คน
3. จัดฟันแบบดามอน (Damon Braces)
เป็นการจัดฟันแบบติดแน่นที่ใช้เครื่องมือพิเศษเรียกว่า “ดามอน” ซึ่งต่างจากการจัดฟันแบบทั่วไปที่ใช้ยางดึงฟัน เพราะดามอนใช้กลไกการล็อกด้วยตัวเอง (self-ligating) โดยมีคลิปล็อกลวดเข้ากับแบร็กเก็ตโดยไม่ต้องใช้ยาง ทำให้ฟันเคลื่อนที่ได้สะดวกขึ้นและลดแรงเสียดทานระหว่างการจัดฟัน
ข้อดีของการจัดฟันแบบดามอน
ความสบายในการจัดฟัน: การใช้ระบบล็อกด้วยตัวเองทำให้ฟันเคลื่อนที่ได้อย่างนุ่มนวลและมีแรงดึงน้อยกว่า ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายมากขึ้น
ลดระยะเวลาการจัดฟัน: การเคลื่อนที่ของฟันเกิดขึ้นได้เร็วขึ้นในบางกรณี ทำให้การจัดฟันใช้ระยะเวลาน้อยกว่าปกติ
ไม่ต้องเปลี่ยนยางบ่อย: เนื่องจากไม่มีการใช้ยางดึงฟัน จึงไม่ต้องเข้าไปเปลี่ยนยางทุกเดือน การเข้าพบทันตแพทย์จึงทำได้ห่างขึ้น
ทำความสะอาดง่ายขึ้น: เพราะไม่มียางดึงฟันที่สามารถสะสมคราบอาหารและแบคทีเรียได้ง่าย ทำให้การดูแลความสะอาดช่องปากสะดวกขึ้น
ข้อเสียของการจัดฟันแบบดามอน
ค่าใช้จ่ายสูง: การจัดฟันแบบดามอนมักมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการจัดฟันแบบโลหะทั่วไป
การเลือกสีจำกัด: ส่วนใหญ่แบร็กเก็ตจะมีให้เลือกแค่แบบโลหะและเซรามิกสีใส ทำให้ไม่มีสีสันให้เลือกเหมือนการจัดฟันแบบโลหะธรรมดาที่สามารถใส่ยางสีต่างๆ ได้
ยังเห็นเครื่องมืออยู่บ้าง: แม้ว่าดามอนแบบเซรามิกจะมีสีใสใกล้เคียงกับสีฟัน แต่ลวดที่ใช้ยังสามารถมองเห็นได้
เหมาะกับใคร
การจัดฟันแบบดามอนเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการจัดฟัน อยากลดจำนวนครั้งในการเข้าพบทันตแพทย์ และต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าแบบทั่วไป ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการความสวยงามแบบเนียนธรรมชาติก็สามารถเลือกดามอนแบบเซรามิกได้
เครื่องมือการจัดฟันแบบดามอน
จัดฟันเสร็จเร็วขึ้น, ลดอาการเจ็บปวดและรู้สึกสบายกว่า, ลดจำนวนครั้งที่มาพบทันตแพทย์, ไม่จ้าเป็นต้องเปลี่ยบรัด
จัดฟัน แบบ Damon Q
เริ่มที่ 59,000 บาท
แบ่งชำระ 3,500/ครั้ง
จัดฟัน แบบ Damon Clear
เริ่มที่ 65,000 บาท
แบ่งชำระ 3,500/ครั้ง
เปรียบเทียบ จัดฟัน Damon กับ จัดฟัน ธรรมดา
4. จัดฟันแบบใส (Invisalign)
เป็นการจัดฟันที่ใช้แผ่นพลาสติกใส (Clear Aligners) ทำจากวัสดุทางการแพทย์ที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคลเพื่อครอบฟันแต่ละซี่ โดยแผ่นใสเหล่านี้จะค่อยๆ เคลื่อนฟันไปตามตำแหน่งที่ต้องการ จึงแทบไม่เห็นเครื่องมือจัดฟัน และสามารถถอดออกได้เมื่อต้องการ เช่น ขณะรับประทานอาหารหรือแปรงฟัน
ข้อดีของการจัดฟันแบบใส (Invisalign)
มองไม่เห็นเครื่องมือ: แผ่นใสใกล้เคียงกับสีฟันมาก ทำให้ไม่สังเกตเห็นเครื่องมือจัดฟันจากภายนอก จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสวยงามและมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน
ถอดออกได้: แผ่น Invisalign สามารถถอดออกได้ ทำให้สะดวกในการกินอาหารและทำความสะอาดฟัน ไม่ต้องกังวลเรื่องคราบอาหารติดเครื่องมือ
ลดการระคายเคือง: เนื่องจากไม่มีแบร็กเก็ตหรือลวดที่ยึดติดกับฟัน จึงลดการระคายเคืองบริเวณเหงือกและเนื้อเยื่อรอบๆ ในช่องปาก
ข้อเสียของการจัดฟันแบบใส (Invisalign)
ต้องสวมใส่ตลอดเวลา: ควรสวมใส่แผ่น Invisalign อย่างน้อย 20-22 ชั่วโมงต่อวันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ดังนั้นผู้ที่ลืมหรือไม่ชอบใส่ตลอดเวลาอาจไม่เหมาะสม
ค่าใช้จ่ายสูง: Invisalign มีราคาสูงกว่าการจัดฟันแบบโลหะหรือแบบอื่นๆ เนื่องจากต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตแผ่นใสเฉพาะบุคคล
อาจไม่เหมาะกับกรณีซับซ้อน: ในบางกรณีที่ฟันซ้อนเกหรือสบฟันผิดปกติรุนแรง Invisalign อาจไม่สามารถแก้ไขได้เท่ากับการจัดฟันแบบติดแน่น
เหมาะกับใคร
Invisalign เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสวยงาม ความสะดวกในการถอดใส่ และมีวินัยในการใส่แผ่นจัดฟันเป็นประจำ เหมาะกับทั้งผู้ใหญ่และวัยรุ่นที่มีปัญหาการเรียงตัวของฟันระดับไม่ซับซ้อนมากนัก
จัดฟันใสหรือจัดฟันเหล็กดีกว่ากัน!
ทันตกรรมจัดฟัน
ขั้นตอนการจัดฟันครั้งแรก
นัดปรึกษาจัดฟันกับทันตแพทย์
เพิ่อประเมินค่าใช้จ่ายและดูแนวทางการ รักษาเบื้องต้นว่าเหมาะกับการจัดฟันกับเครื่องมือจัดฟันชนิดใด
พิมพ์ปากทำแบบจำลองฟัน
ทำการพิมพ์ปากทำแบบจำลองฟัน หรือ สแกนฟัน 3มิติ
เอกซเรย์เพื่อการจัดฟัน
เอกซเรย์เพื่อการจัดฟันทำการถ่ายรูปโครงหน้าและฟัน
เคลียร์ช่องปาก
เคลียร์ช่องปากตามที่ทันตแพทย์แนะนำ เช่น ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน เป็นต้น
ติดเครื่องมือจัดฟัน
ติดเครื่องมือจัดฟันแบบโลหะติดแน่น หรือ รับชุดเครื่องมือจัดฟันแบบใส
ทำการนัดปรับเครื่องมือ
ทำการนัดปรับเครื่องมือจัดฟันรายเดือนหรือรับชุดเครื่องมือจัดฟันแบบใสตามนัด
พิมพ์ปากทำรีเทนเนอร์
พิมพ์ปากทำรีเทนเนอร์ (retainer) หลังจากจัดฟันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
อัตราค่าบริการทันตกรรมจัดฟัน
-
พิมพ์ปาก 1 ครั้ง / 1,000
-
จัดฟันแแบบโลหะ เริ่มที่ 38,000
M3 (US) / Ormco (US) / Japan brackets
-
จัดฟันแบบ Ceramic M3 เริ่มที่ 59,000
(US)
-
จัดฟันแบบ Damon Q เริ่มที่ 65,000
(US)
-
จัดฟันแบบ Damon Clear เริ่มที่ 70,000
(US)
-
จัดฟัน แบบใสไร้เหล็ก เริ่มที่ 59,000 - 70,000
Invisalign (US)
-
จัดฟัน แบบใสไร้เหล็ก เริ่มที่ 6,000
GIKO AUGNER (APAN) จัดเป็นรีเทนเนอร์ 1 ชิ้น
-
จัดฟันแบบใส Zenyum เริ่มที่ 49,000
-
รีเทนเนอร์ 1 ชิ้น เริ่ม 1,650
-
ค่าหมุดจัดฟัน 1 ตัว / 4,000 - 5,000
จัดฟันช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
การจัดฟันมีประโยชน์หลายด้านทั้งในแง่ของสุขภาพช่องปากและความสวยงาม ซึ่งรวมถึง:
1. แก้ไขปัญหาฟันซ้อนเกและการสบฟันผิดปกติ
ช่วยให้ฟันเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ ลดการซ้อนเกหรือเบียดแน่นของฟัน ซึ่งจะทำให้ฟันใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปรับการสบฟันให้ถูกต้อง เช่น การสบฟันที่เกหรือลึกเกินไป ซึ่งส่งผลต่อการเคี้ยวและการพูด
2. ช่วยให้ทำความสะอาดฟันได้ง่ายขึ้น
เมื่อฟันเรียงตัวสม่ำเสมอและไม่เบียดแน่น การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันทำได้ง่ายขึ้น ลดโอกาสการสะสมของคราบหินปูนและแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคเหงือกและฟันผุ
3. ลดความเสี่ยงต่อโรคเหงือกและฟัน
การจัดฟันช่วยลดปัญหาฟันเบียดแน่นและการซ้อนเกที่เป็นสาเหตุให้เหงือกอักเสบ ฟันผุ หรือโรคปริทันต์ในระยะยาว
4. แก้ปัญหาปวดกรามและข้อต่อขากรรไกร
ปัญหาการสบฟันที่ผิดปกติ เช่น ฟันเก ฟันซ้อนหรือการสบฟันลึก อาจทำให้เกิดแรงกดที่ไม่สมดุล ซึ่งอาจทำให้ปวดกราม ปวดหัว หรือมีปัญหากับข้อต่อขากรรไกร (TMJ) การจัดฟันสามารถลดอาการเหล่านี้ได้
5. เพิ่มความมั่นใจและบุคลิกภาพที่ดี
การจัดฟันช่วยปรับรูปลักษณ์ของฟันและรอยยิ้มให้สวยงามและดูเป็นธรรมชาติ ส่งผลให้ผู้จัดฟันมีความมั่นใจมากขึ้นในการพูดคุยและยิ้ม
6. ส่งผลดีต่อการเคี้ยวและย่อยอาหาร
ฟันที่เรียงตัวดีจะช่วยในการบดเคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
7. แก้ปัญหาการออกเสียงที่ผิดปกติ
ในบางกรณีที่การสบฟันไม่ถูกต้อง การจัดฟันอาจช่วยแก้ไขปัญหาการออกเสียงที่ผิดปกติ เช่น เสียงซิบ (เสียง “ฟ่อ”) ซึ่งเกิดจากการสบฟันที่ไม่ตรงกัน
การจัดฟันจึงมีประโยชน์ทั้งด้านสุขภาพช่องปาก สุขภาพโดยรวม และด้านความสวยงาม
คำแนะนำจากทันตแพทย์และข้อควรปฏิบัติในการจัดฟัน ?
หลังติดเครื่องมือสำหรับบางท่านอาจมีอาการเจ็บหรือปวดฟันในช่วงแรก คนไข้สามารถที่จะแก้ไขได้โดยทานยาแก้ปวด
พบทันตแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพฟันที่ดี
หลีกเลี่ยมการบดเคี้ยวที่แข็งและหนียว เพื่อป้อมกันให้เครื่องมือจัดฟันหลุดได้
ควรดูแลรักษาความสะอาดของสุขภาพฟัน โดยแปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ
คำถามที่พบบ่อย
การจัดฟันสามารถทำให้ลักษณะของใบหน้าเปลี่ยนไปได้ในบางกรณี โดยเฉพาะกรณีที่มีการจัดฟันเพื่อแก้ไขปัญหาการสบฟันหรือการเรียงตัวของฟัน ซึ่งจะส่งผลต่อโครงสร้างกระดูกใบหน้าที่เชื่อมโยงกับฟันและขากรรไกร
การจัดฟันอาจทำให้หน้าเรียวขึ้นเล็กน้อยในบางกรณี เช่น:
การถอนฟันเพื่อเว้นช่องให้ฟันเคลื่อน: การถอนฟันบางซี่ออกแล้วจัดฟันให้เรียงตัวใหม่ อาจทำให้กรอบหน้าดูเล็กลงหรือหน้าเรียวขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากฟันที่เรียงตัวใหม่และการปรับแนวขากรรไกรให้สมดุล
การเปลี่ยนตำแหน่งขากรรไกร: สำหรับผู้ที่มีปัญหาการสบฟันหรือขากรรไกรที่ผิดปกติ การปรับแนวขากรรไกรอาจทำให้รูปหน้าดูสมส่วนและเรียวขึ้น
การจัดฟันสามารถทำให้ใบหน้าเปลี่ยนแปลงได้ดังนี้:
1. การเคลื่อนฟันและกระดูกขากรรไกร: เมื่อฟันถูกจัดให้เรียงตัวใหม่ ขากรรไกรอาจมีการเคลื่อนตัวไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม ส่งผลให้ใบหน้าดูได้สัดส่วนและสมดุลขึ้น
2. การปรับแนวกราม: ถ้ามีปัญหาการสบฟัน เช่น ฟันล่างคร่อมหรือฟันบนยื่น การจัดฟันจะช่วยปรับแนวกรามให้เข้าที่ ส่งผลต่อใบหน้าที่ดูสมดุลมากขึ้น
3. รูปหน้าในบางกรณี: ในบางกรณี การจัดฟันอาจช่วยให้ส่วนของริมฝีปาก แก้ม และแนวกรามดูเรียวขึ้น โดยเฉพาะถ้าก่อนหน้านี้มีฟันซ้อนเกหรือยื่นออกมามาก
ระยะเวลาในการจัดฟันมักแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพฟันของแต่ละคน โดยทั่วไปแล้วใช้เวลาอยู่ระหว่าง 1.5 ถึง 3 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น:
1. ประเภทของปัญหาฟัน – ถ้าฟันห่าง ฟันเก หรือฟันคุด อาจใช้เวลามากกว่าเคสปกติ
2. ประเภทของอุปกรณ์จัดฟัน – เช่น การจัดฟันแบบโลหะ อาจใช้เวลาน้อยกว่าแบบใส หรือแบบดามอน
3. อายุของผู้จัดฟัน – ผู้ใหญ่อาจใช้เวลานานกว่าเด็ก เพราะฟันของเด็กยังเคลื่อนที่ได้ง่ายกว่า
4. การดูแลและปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์ – หากมาพบหมอฟันตามนัดและดูแลอย่างเหมาะสม จะช่วยให้กระบวนการเป็นไปตามแผน
เพื่อความชัดเจน แนะนำให้ปรึกษาทันตแพทย์เฉพาะทางเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
รีวิว
รีวิวจากลูกค้าของเรา
Sumet BLX2024-11-19 คุณหมอมือเบาครับ พนักงานน่ารักดูแลดีครับ เคลียช่องปาก/ผ่าฟันคุดถอนฟัน รวดเร็วครับ Pentor Peerapong2024-11-18 ดีมากเลยครับ AekkyTH Channel2024-11-16 ขูดหินปูน ประกันสังคมไม่ต้องสำรองจ่าย บริการยอดเยี่ยม แนะนำโทรนัดล่วงหน้า N_Prempree Meekaew2024-11-12 พนักงานบริการดีมากๆค่ะ คุณหมอกับผู้ช่วยก้อัธยาศัยดีมาก ploy panisa2024-11-11 คุณหมอทำฟันสะอาดมาก ทำดีมือเบา ทำเร็ว ร้านสะอาดมากๆค่ะ😍😍 ทวินันท์ ดํารงศิลป์2024-11-10 เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำดี ร้านสะอาดค่ะ Nantawan Noonpakdee2024-11-04 คุณหมอใจดี มือเบามากค่ะLoad more
ส่วนหนึ่งของรอยยิ้มคนไข้ที่ไว้วางใจให้เราดูแล