ทำฟัน จัดฟัน นัดปรึกษาฟรี : @iDentistClinic

บริการทันตกรรมจัดฟัน

เลือกหัวข้ออ่านการจัดฟัน

จัดฟัน อย่างมั่นใจ..ราคาสบายๆ กระเป๋า

จัดฟันเหล็กหรือจัดฟันโลหะ (Metal Bracket) ครั้งแรก ไม่มีบัตรเครดิตก็สามารถผ่อนชำระได้ตามงวด หรือเลือกชำระครั้งเดียวได้ตามสะดวก พร้อมโปรโมชั่นที่คุณเลือกได้เองที่ i Dentist Dental Clinic จัดฟันโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดฟัน ผ่อนสบายๆ คุมงบประมาณได้ “จ่ายครบ จบ งบไม่บานปลาย”

⭐ โปรโมชั่นจัดฟัน 999 ⭐

iDentist ทุกสาขา (รับเคสจำนวนจำกัด)
แก้จัดฟันซ้ำแบบใส เริ่ม 6,000 บาท
จัดฟันซ้ำรอบสอง เริ่ม 19,000 บาท

**จัดฟันวันนี้ รับของแถม ฟรีทุกรายการ!!!**
✅ ปรึกษาจัดฟัน
✅ รีเทนเนอร์
✅ พิมพ์ปาก
✅ เอกซเรย์ 2 ฟิล์ม
✅ ถอดเครื่องมือหลังจัดฟันเสร็จ
✅ เคลียร์ช่องปากลด 10%

ฟรี!! ของแถม มูลค่ากว่า 15,000 บาท

1. ปรึกษาทันตแพทย์ก่อนเข้ารับการจัดฟัน
2. วิเคราะห์วางแผนการรักษาจัดฟันที่เหมาะกับลักษณะฟันของคุณ
3. X-Ray พร้อมพิมพ์ฟัน
4. ติดเครื่องมือจัดฟันทั้งฟันบน – ฟันล่าง พร้อมเลือกสียาง
5. จัดต่อจนจบ งบไม่บานปลาย
6. รับรีเทนเนอร์แบบใส 1 คู่

Plan A

เริ่ม

35,000 บาท

เริ่มผ่อนชำระงวดที่ 1
(พิมพ์ปาก เอกซเรย์ฟัน)

999 x 1 งวด
งวดต่อไป 1,500/เดือน

Plan B

เริ่ม

35,000 บาท

เริ่มผ่อนชำระงวดที่ 1
(พิมพ์ปาก เอกซเรย์ฟัน)

1,200 x 3 งวด
งวดต่อไป 1,500/เดือน

Plan C

เริ่ม

35,000 บาท

เริ่มผ่อนชำระงวดที่ 1
(พิมพ์ปาก เอกซเรย์ฟัน)

2,000 x 4 งวด
งวดต่อไป 1,000/เดือน

Plan C

เริ่ม

35,000 บาท

เริ่มผ่อนชำระงวดที่ 1
(พิมพ์ปาก เอกซเรย์ฟัน)

3,000 x 5 งวด
งวดต่อไป 900/เดือน

iDentist Dental Clinic

ทันตกรรมจัดฟัน

การจัดฟันคืออะไร และสิ่งสำคัญที่คนยังไม่จัดฟันควรรู้ ?

การจัดฟัน คือกระบวนการที่ช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับฟัน และ การสบฟัน เช่น ฟันยื่น ฟันซ้อน ฟันเก  หรือ การสบฟันที่ไม่เหมาะสม ซึ่งส่งผลต่อการบดเคี้ยว และ ความมั่นใจในการยิ้ม ปัจจุบันการจัดฟันมีหลากหลายรูปแบบ และ หลายราคาให้เลือกสรร เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ และ ความเหมาะสมของแต่ละบุคคล

ใครควรจัดฟัน ?

– ฟันห่าง ฟันซ้อน ฟันเก
– ฟันหน้าไม่สบกัน การสบฟันลึก การสบฟันไขว้
– ขากรรไกรบนหรือล่างยื่น
– จำนวนฟันที่มีอยู่ขาดหายไปหรือเกินจำนวน
– ฟันนำ้นมหลุดหรือถอนก่อนและหลังเวลาอันควร
จัดฟัน

จัดฟันมีกี่แบบ?

การจัดฟัน มีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับปัญหาของฟัน ความต้องการของผู้ป่วย และ งบประมาณ โดยทั่วไปสามารถแบ่งได้ดังนี้:

1. จัดฟันแบบโลหะติดแน่น (Metal Braces)
เป็นการติดเหล็กจัดฟันที่ด้านหน้าของฟัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันซ้อนเก หรือ ฟันสบผิดปกติ ข้อดีคือสามารถควบคุมตำแหน่งฟันได้ดี และ มีค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก แต่มีข้อเสียคือเห็นเหล็กชัดเจน

2. จัดฟันแบบเซรามิกติดแน่น (Ceramic Braces)
คล้ายกับแบบโลหะแต่ใช้วัสดุเซรามิกที่มีสีใกล้เคียงกับฟัน จึงดูเป็นธรรมชาติมากกว่า นิยมใช้ในผู้ที่ต้องการความสวยงาม แต่ค่าใช้จ่ายสูงกว่า และ อาจเปราะกว่าแบบโลหะ

3. จัดฟันแบบดามอน (Damon Braces)
ใช้เหล็กจัดฟันชนิดที่ไม่ต้องใช้ยางในการยึด ทำให้แรงเสียดทานลดลง ฟันเคลื่อนที่ได้เร็วกว่า และ ไม่ต้องปรับเครื่องมือบ่อย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจัดฟันรวดเร็ว และ มีความสะดวกในการดูแล

4. จัดฟันแบบใส (Invisalign)
เป็นการจัดฟันแบบถอดได้ ใช้แผ่นใส (Clear aligners) ที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคล ใส่ครอบฟันเพื่อค่อย ๆ เคลื่อนฟันไปยังตำแหน่งที่ต้องการ ดูเป็นธรรมชาติ และ สบายในการใช้ชีวิตประจำวัน แต่มีราคาค่อนข้างสูง

จัดฟันทั่วไป

1. จัดฟันแบบโลหะติดแน่น (Metal Braces)

คือการจัดฟันโดยการติดตั้งเครื่องมือจัดฟันที่ทำจากโลหะไว้ที่ด้านหน้าของฟัน เครื่องมือประกอบด้วยแบร็กเก็ต (Bracket) โลหะที่ติดอยู่บนฟันแต่ละซี่ และ เชื่อมต่อกันด้วยลวดจัดฟัน โดยมีการใช้ยางดึงฟัน (O-Ring) หรือยางสีสันต่างๆ เพื่อช่วยยึดลวดเข้ากับแบร็กเก็ต

ข้อดีของการจัดฟันแบบโลหะติดแน่น

ความแข็งแรงทนทาน : เครื่องมือที่ใช้ทำจากโลหะ จึงทนต่อการใช้งาน และ สามารถแก้ไขปัญหาฟันได้หลากหลาย

ค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก : เป็นตัวเลือกที่มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการจัดฟันแบบอื่นๆ เช่น แบบใส (Invisalign) หรือ แบบเซรามิก

ควบคุมการเคลื่อนของฟันได้ดี : ทันตแพทย์สามารถปรับเครื่องมือได้อย่างละเอียดเพื่อให้ฟันเคลื่อนไปยังตำแหน่งที่ต้องการ

ข้อเสียของการจัดฟันแบบโลหะติดแน่น

มองเห็นได้ชัดเจน : เนื่องจากเครื่องมือเป็นโลหะ ทำให้มองเห็นได้จากภายนอก อาจมีผลต่อความมั่นใจของผู้ใส่

ทำความสะอาดยากขึ้น : การทำความสะอาดช่องปากต้องใช้เวลา และ ระมัดระวังมากขึ้น เพราะเศษอาหารอาจติดในซอกเครื่องมือได้ง่าย

อาจระคายเคืองช่องปาก : ในช่วงแรกๆ ที่ติดเครื่องมืออาจรู้สึกระคายเคืองริมฝีปากหรือเหงือกบ้าง จนกว่าจะปรับตัวได้

เหมาะกับใคร

การจัดฟันแบบโลหะติดแน่นเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาฟันซ้อนเกหรือฟันสบผิดปกติ ต้องการผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ และ ไม่กังวลเรื่องความสวยงามมากนัก

2. จัดฟันแบบเซรามิกติดแน่น (Ceramic Braces)

คือ การจัดฟันที่ใช้วัสดุเซรามิกที่มีสีใกล้เคียงกับฟันแทนการใช้โลหะ โดยจะติดเครื่องมือเซรามิกที่ฟันแต่ละซี่ และ เชื่อมต่อกันด้วยลวด ซึ่งอาจใช้ลวดสีใสหรือสีขาวเพื่อลดความเด่นของเครื่องมือ ทำให้ดูเป็นธรรมชาติกว่าการจัดฟันแบบโลหะ

ข้อดีของการจัดฟันแบบเซรามิกติดแน่น

ความสวยงาม และ เป็นธรรมชาติ : เนื่องจากสีของเซรามิกใกล้เคียงกับสีฟัน ทำให้มองเห็นเครื่องมือได้น้อยกว่า จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสวยงาม และ ต้องการให้ดูไม่สะดุดตา

ประสิทธิภาพในการจัดฟัน : สามารถแก้ไขปัญหาการเรียงตัวของฟัน และ การสบฟันที่ผิดปกติได้ดี

ข้อเสีย ของการจัดฟันแบบเซรามิกติดแน่น

เปราะกว่าโลหะ : เซรามิกมีความเปราะบางกว่าโลหะ อาจแตกหรือเสียหายได้ง่ายกว่าเมื่อได้รับแรงกระแทก หรือ แรงกัดที่รุนแรง

ค่าใช้จ่ายสูงกว่า : ราคาของการจัดฟันแบบเซรามิกจะสูงกว่าแบบโลหะ

อาจเกิดคราบสี : เซรามิกอาจดูดซับสีจากอาหาร หรือ เครื่องดื่มบางชนิด เช่น กาแฟ ชา หรืออาหารที่มีสีเข้ม ทำให้เกิดคราบบนแบร็กเก็ตได้

เหมาะกับใคร

การจัดฟันแบบเซรามิกติดแน่นเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจัดฟันอย่างมีประสิทธิภาพแต่ยังต้องการความสวยงามเป็นธรรมชาติ เช่น ผู้ที่ต้องการความมั่นใจในระหว่างการจัดฟันหรือทำงาน ที่ต้องพบปะผู้คน

3. จัดฟันแบบดามอน (Damon Braces)

เป็นการจัดฟันแบบติดแน่นที่ใช้เครื่องมือพิเศษเรียกว่า “ดามอน” ซึ่งต่างจากการจัดฟันแบบทั่วไปที่ใช้ยางดึงฟัน เพราะดามอนใช้กลไกการล็อกด้วยตัวเอง (self-ligating) โดยมีคลิปล็อกลวดเข้ากับแบร็กเก็ตโดยไม่ต้องใช้ยาง ทำให้ฟันเคลื่อนที่ได้สะดวกขึ้นและลดแรงเสียดทานระหว่างการจัดฟัน

ข้อดีของการจัดฟันแบบดามอน

ความสบายในการจัดฟัน: การใช้ระบบล็อกด้วยตัวเองทำให้ฟันเคลื่อนที่ได้อย่างนุ่มนวลและมีแรงดึงน้อยกว่า ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายมากขึ้น

ลดระยะเวลาการจัดฟัน: การเคลื่อนที่ของฟันเกิดขึ้นได้เร็วขึ้นในบางกรณี ทำให้การจัดฟันใช้ระยะเวลาน้อยกว่าปกติ

ไม่ต้องเปลี่ยนยางบ่อย: เนื่องจากไม่มีการใช้ยางดึงฟัน จึงไม่ต้องเข้าไปเปลี่ยนยางทุกเดือน การเข้าพบทันตแพทย์จึงทำได้ห่างขึ้น

ทำความสะอาดง่ายขึ้น: เพราะไม่มียางดึงฟันที่สามารถสะสมคราบอาหารและแบคทีเรียได้ง่าย ทำให้การดูแลความสะอาดช่องปากสะดวกขึ้น

ข้อเสียของการจัดฟันแบบดามอน

ค่าใช้จ่ายสูง: การจัดฟันแบบดามอนมักมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการจัดฟันแบบโลหะทั่วไป

การเลือกสีจำกัด: ส่วนใหญ่แบร็กเก็ตจะมีให้เลือกแค่แบบโลหะและเซรามิกสีใส ทำให้ไม่มีสีสันให้เลือกเหมือนการจัดฟันแบบโลหะธรรมดาที่สามารถใส่ยางสีต่างๆ ได้

ยังเห็นเครื่องมืออยู่บ้าง: แม้ว่าดามอนแบบเซรามิกจะมีสีใสใกล้เคียงกับสีฟัน แต่ลวดที่ใช้ยังสามารถมองเห็นได้

เหมาะกับใคร

การจัดฟันแบบดามอนเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการจัดฟัน อยากลดจำนวนครั้งในการเข้าพบทันตแพทย์ และต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็วกว่าแบบทั่วไป ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการความสวยงามแบบเนียนธรรมชาติก็สามารถเลือกดามอนแบบเซรามิกได้  

เครื่องมือการจัดฟันแบบดามอน

จัดฟันเสร็จเร็วขึ้น, ลดอาการเจ็บปวดและรู้สึกสบายกว่า, ลดจำนวนครั้งที่มาพบทันตแพทย์, ไม่จ้าเป็นต้องเปลี่ยบรัด

จัดฟัน แบบ Damon Q

เริ่มที่ 59,000 บาท
แบ่งชำระ 3,500/ครั้ง

จัดฟัน แบบ Damon Clear

เริ่มที่ 65,000 บาท
แบ่งชำระ 3,500/ครั้ง

เปรียบเทียบ จัดฟัน Damon กับ จัดฟัน ธรรมดา

4. จัดฟันแบบใส (Invisalign)

เป็นการจัดฟันที่ใช้แผ่นพลาสติกใส (Clear Aligners) ทำจากวัสดุทางการแพทย์ที่ออกแบบมาเฉพาะบุคคลเพื่อครอบฟันแต่ละซี่ โดยแผ่นใสเหล่านี้จะค่อยๆ เคลื่อนฟันไปตามตำแหน่งที่ต้องการ จึงแทบไม่เห็นเครื่องมือจัดฟัน และสามารถถอดออกได้เมื่อต้องการ เช่น ขณะรับประทานอาหารหรือแปรงฟัน

ข้อดีของการจัดฟันแบบใส (Invisalign)

มองไม่เห็นเครื่องมือ: แผ่นใสใกล้เคียงกับสีฟันมาก ทำให้ไม่สังเกตเห็นเครื่องมือจัดฟันจากภายนอก จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสวยงามและมั่นใจในการใช้ชีวิตประจำวัน

ถอดออกได้: แผ่น Invisalign สามารถถอดออกได้ ทำให้สะดวกในการกินอาหารและทำความสะอาดฟัน ไม่ต้องกังวลเรื่องคราบอาหารติดเครื่องมือ

ลดการระคายเคือง: เนื่องจากไม่มีแบร็กเก็ตหรือลวดที่ยึดติดกับฟัน จึงลดการระคายเคืองบริเวณเหงือกและเนื้อเยื่อรอบๆ ในช่องปาก


ข้อเสียของการจัดฟันแบบใส (Invisalign)

ต้องสวมใส่ตลอดเวลา: ควรสวมใส่แผ่น Invisalign อย่างน้อย 20-22 ชั่วโมงต่อวันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ดังนั้นผู้ที่ลืมหรือไม่ชอบใส่ตลอดเวลาอาจไม่เหมาะสม

ค่าใช้จ่ายสูง: Invisalign มีราคาสูงกว่าการจัดฟันแบบโลหะหรือแบบอื่นๆ เนื่องจากต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตแผ่นใสเฉพาะบุคคล

อาจไม่เหมาะกับกรณีซับซ้อน: ในบางกรณีที่ฟันซ้อนเกหรือสบฟันผิดปกติรุนแรง Invisalign อาจไม่สามารถแก้ไขได้เท่ากับการจัดฟันแบบติดแน่น


เหมาะกับใคร

Invisalign เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสวยงาม ความสะดวกในการถอดใส่ และมีวินัยในการใส่แผ่นจัดฟันเป็นประจำ เหมาะกับทั้งผู้ใหญ่และวัยรุ่นที่มีปัญหาการเรียงตัวของฟันระดับไม่ซับซ้อนมากนัก

จัดฟันใสหรือจัดฟันเหล็กดีกว่ากัน!

ทันตกรรมจัดฟัน

ขั้นตอนการจัดฟันครั้งแรก

นัดปรึกษาจัดฟันกับทันตแพทย์

เพิ่อประเมินค่าใช้จ่ายและดูแนวทางการ รักษาเบื้องต้นว่าเหมาะกับการจัดฟันกับเครื่องมือจัดฟันชนิดใด

พิมพ์ปากทำแบบจำลองฟัน

ทำการพิมพ์ปากทำแบบจำลองฟัน หรือ สแกนฟัน 3มิติ

เอกซเรย์เพื่อการจัดฟัน

 เอกซเรย์เพื่อการจัดฟันทำการถ่ายรูปโครงหน้าและฟัน  

เคลียร์ช่องปาก

เคลียร์ช่องปากตามที่ทันตแพทย์แนะนำ เช่น ขูดหินปูน อุดฟัน ถอนฟัน เป็นต้น

ติดเครื่องมือจัดฟัน

ติดเครื่องมือจัดฟันแบบโลหะติดแน่น หรือ รับชุดเครื่องมือจัดฟันแบบใส

ทำการนัดปรับเครื่องมือ

ทำการนัดปรับเครื่องมือจัดฟันรายเดือนหรือรับชุดเครื่องมือจัดฟันแบบใสตามนัด

พิมพ์ปากทำรีเทนเนอร์

พิมพ์ปากทำรีเทนเนอร์ (retainer) หลังจากจัดฟันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

เริ่มต้นจัดฟันครั้งแรก สิ่งที่ควรรู้และเตรียมตัว

การจัดฟันเป็นกระบวนการที่ช่วยปรับปรุงการเรียงตัวของฟันให้สวยงามและสมดุลมากขึ้น ทันตแพทย์จะพิจารณาโครงสร้างฟันและใบหน้าของคุณอย่างละเอียด เช่น ความจำเป็นในการถอนฟัน (ถ้าจำเป็น) หรือการใช้เครื่องมือช่วย เช่น มินิสกรู (Miniscrew) เพื่อให้การจัดฟันมีประสิทธิภาพสูงสุด การตัดสินใจเหล่านี้ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยอย่างละเอียดของผู้เชี่ยวชาญ

ที่คลินิกของเรามีทันตแพทย์จัดฟันที่มากด้วยประสบการณ์ คุณจึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยและคุณภาพการรักษา

นอกจากนี้ การจัดฟันยังมีหลายรูปแบบ เช่น การจัดฟันโลหะ การจัดฟันใส หรือการจัดฟันแบบดามอน โดยแต่ละแบบมีข้อดี ราคา และความเหมาะสมที่แตกต่างกัน การศึกษาข้อมูลล่วงหน้าจะช่วยให้คุณเลือกวิธีที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ดีที่สุด

จะจัดฟันที่ไหนดี? เคล็ดลับในการเลือกคลินิกที่เหมาะสม

คำถามที่พบได้บ่อยสำหรับคนที่กำลังวางแผนจัดฟันคือ จัดฟันที่ไหนดี เนื่องจากปัจจุบันมีคลินิกจัดฟันให้เลือกมากมาย การเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือและเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ทำไมต้องเลือกเรา iDentist Dental Clinic?

  • ทันตแพทย์ของเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านจัดฟัน: จากมหาวิทยาลัยชั้นนำจากทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เช่น มหาลัยหิดล มหาลัยจุฬา University of Sydney และอื่นๆ เป็นต้น จัดฟันเคสสำเร็จเป็นจำนวนมาก คุณสามารถเข้ามาปรึกษาได้อย่างเป็นกันเองโดยไม่ต้องรอคิวนาน
  • การเดินทางสะดวก: คลินิกตั้งอยู่ใจกลางเมือง ใกล้กับรถไฟฟ้าบีทีเอส แอร์พอร์ตลิงค์ และยังมีที่จอดรถสำหรับผู้ที่เดินทางด้วยรถยนต์ทุกสาขา ส่วนสาขารังสิตตั้งอยู่บน ถนนรังสิต – นครนายก เพียง 5 นาทีจากฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
  • ค่าใช้จ่ายยืดหยุ่น: เราให้บริการแบ่งชำระค่าใช้จ่ายรายเดือน โดยทุกครั้งที่ปรับเครื่องมือ คุณจึงสามารถจัดการงบประมาณได้อย่างสะดวก
  • มุ่งเน้นความสะอาด ทันตกรรมปลอดเชื้อขั้นสูง

ด้วยความตั้งใจของเรา เราหวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่กำลังมองหาคลินิกจัดฟันที่มั่นใจได้

ปัจจัยที่มีผลต่อการเรียงตัวของฟัน

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมการเรียงตัวของฟันในแต่ละคนจึงแตกต่างกัน หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไป สาเหตุหลักๆ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ปัจจัยดังนี้

  1. กรรมพันธุ์
    ลักษณะการเรียงตัวของฟัน ขนาด รูปร่าง และความสัมพันธ์ระหว่างขากรรไกรส่วนใหญ่ถูกกำหนดโดยพันธุกรรม ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดปัญหาฟันยื่น ฟันซ้อนเก หรือฟันห่าง
  2. จำนวนฟันที่เกินหรือขาดหาย
    • หากมีฟันที่หายไป เช่น จากการถอนฟันหรืออุบัติเหตุ อาจทำให้ฟันที่เหลือขาดสมดุล เกิดการเอียงหรือล้ม
    • ในทางกลับกัน การมีฟันเกินก็สามารถทำให้เกิดความแออัดในช่องปาก ทำให้ฟันเรียงตัวไม่สวย
  3. พฤติกรรมนิสัยที่ส่งผลต่อฟัน
    พฤติกรรมบางอย่าง เช่น การดูดนิ้ว การกัดเล็บ การกลืนโดยใช้ลิ้นดุนฟัน หรือการหายใจทางปาก สามารถทำให้เกิดปัญหาฟันห่าง ฟันยื่น หรือปัญหาอื่นๆ นอกจากนี้ การถอนฟันน้ำนมเร็วเกินไปยังส่งผลต่อการขึ้นและการเรียงตัวของฟันแท้

จัดฟันช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

การจัดฟันมีประโยชน์หลายด้านทั้งในแง่ของสุขภาพช่องปากและความสวยงาม ซึ่งรวมถึง:

1. แก้ไขปัญหาฟันซ้อนเกและการสบฟันผิดปกติ
ช่วยให้ฟันเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ ลดการซ้อนเกหรือเบียดแน่นของฟัน ซึ่งจะทำให้ฟันใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปรับการสบฟันให้ถูกต้อง เช่น การสบฟันที่เกหรือลึกเกินไป ซึ่งส่งผลต่อการเคี้ยวและการพูด

2. ช่วยให้ทำความสะอาดฟันได้ง่ายขึ้น
เมื่อฟันเรียงตัวสม่ำเสมอและไม่เบียดแน่น การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันทำได้ง่ายขึ้น ลดโอกาสการสะสมของคราบหินปูนและแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคเหงือกและฟันผุ

3. ลดความเสี่ยงต่อโรคเหงือกและฟัน
การจัดฟันช่วยลดปัญหาฟันเบียดแน่นและการซ้อนเกที่เป็นสาเหตุให้เหงือกอักเสบ ฟันผุ หรือโรคปริทันต์ในระยะยาว

4. แก้ปัญหาปวดกรามและข้อต่อขากรรไกร
ปัญหาการสบฟันที่ผิดปกติ เช่น ฟันเก ฟันซ้อนหรือการสบฟันลึก อาจทำให้เกิดแรงกดที่ไม่สมดุล ซึ่งอาจทำให้ปวดกราม ปวดหัว หรือมีปัญหากับข้อต่อขากรรไกร (TMJ) การจัดฟันสามารถลดอาการเหล่านี้ได้

5. เพิ่มความมั่นใจและบุคลิกภาพที่ดี
การจัดฟันช่วยปรับรูปลักษณ์ของฟันและรอยยิ้มให้สวยงามและดูเป็นธรรมชาติ ส่งผลให้ผู้จัดฟันมีความมั่นใจมากขึ้นในการพูดคุยและยิ้ม

6. ส่งผลดีต่อการเคี้ยวและย่อยอาหาร
ฟันที่เรียงตัวดีจะช่วยในการบดเคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น ส่งผลให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

7. แก้ปัญหาการออกเสียงที่ผิดปกติ
ในบางกรณีที่การสบฟันไม่ถูกต้อง การจัดฟันอาจช่วยแก้ไขปัญหาการออกเสียงที่ผิดปกติ เช่น เสียงซิบ (เสียง “ฟ่อ”) ซึ่งเกิดจากการสบฟันที่ไม่ตรงกัน

การจัดฟันจึงมีประโยชน์ทั้งด้านสุขภาพช่องปาก สุขภาพโดยรวม และด้านความสวยงาม

การดูแลรักษาหลังจัดฟัน เคล็ดลับสุขภาพช่องปากที่คุณควรรู้

การจัดฟันเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยเวลาและความเอาใจใส่สูง โดยเฉพาะในช่วงระยะเวลา 1-3 ปีหลังจากเริ่มต้นจัดฟัน สุขภาพช่องปากที่ดีจะช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เช่น กลิ่นปาก ฟันผุ โรคเหงือกอักเสบ หรือแผลในช่องปาก เพื่อให้การดูแลฟันของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลองทำตามคำแนะนำดังนี้:

  1. ใช้แปรงสีฟันเฉพาะสำหรับจัดฟัน
    แปรงชนิดนี้ออกแบบมาเพื่อเข้าถึงเศษอาหารที่ติดตามเครื่องมือจัดฟันได้ง่ายขึ้น
  2. เลือกยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากที่มีฟลูออไรด์
    ฟลูออไรด์ช่วยเสริมความแข็งแรงของฟันและลดความเสี่ยงของฟันผุ
  3. แปรงฟันหลังมื้ออาหารทุกครั้ง
    ใช้ไหมขัดฟันร่วมด้วยเพื่อทำความสะอาดซอกฟันและพื้นที่ที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึง
  4. ใช้น้ำยาบ้วนปากหรือน้ำเกลือหลังแปรงฟัน
    การอมน้ำยาบ้วนปากช่วยยับยั้งแบคทีเรียในช่องปาก ขณะที่น้ำเกลือช่วยลดอาการอักเสบและรักษาแผลในช่องปาก
  5. ตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน
    อย่าลืมขูดหินปูนเพื่อลดคราบสะสมและตรวจหาอาการฟันผุที่อาจเกิดขึ้น

คำแนะนำจากทันตแพทย์และข้อควรปฏิบัติในการจัดฟัน ?

หลังติดเครื่องมือสำหรับบางท่านอาจมีอาการเจ็บหรือปวดฟันในช่วงแรก คนไข้สามารถที่จะแก้ไขได้โดยทานยาแก้ปวด

พบทันตแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพฟันที่ดี

หลีกเลี่ยมการบดเคี้ยวที่แข็งและหนียว เพื่อป้อมกันให้เครื่องมือจัดฟันหลุดได้

ควรดูแลรักษาความสะอาดของสุขภาพฟัน โดยแปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ

คำถามที่พบบ่อย

การจัดฟันสามารถทำให้ลักษณะของใบหน้าเปลี่ยนไปได้ในบางกรณี โดยเฉพาะกรณีที่มีการจัดฟันเพื่อแก้ไขปัญหาการสบฟันหรือการเรียงตัวของฟัน ซึ่งจะส่งผลต่อโครงสร้างกระดูกใบหน้าที่เชื่อมโยงกับฟันและขากรรไกร

การจัดฟันอาจทำให้หน้าเรียวขึ้นเล็กน้อยในบางกรณี เช่น:

การถอนฟันเพื่อเว้นช่องให้ฟันเคลื่อน: การถอนฟันบางซี่ออกแล้วจัดฟันให้เรียงตัวใหม่ อาจทำให้กรอบหน้าดูเล็กลงหรือหน้าเรียวขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากฟันที่เรียงตัวใหม่และการปรับแนวขากรรไกรให้สมดุล

การเปลี่ยนตำแหน่งขากรรไกร: สำหรับผู้ที่มีปัญหาการสบฟันหรือขากรรไกรที่ผิดปกติ การปรับแนวขากรรไกรอาจทำให้รูปหน้าดูสมส่วนและเรียวขึ้น

การจัดฟันสามารถทำให้ใบหน้าเปลี่ยนแปลงได้ดังนี้:

1. การเคลื่อนฟันและกระดูกขากรรไกร: เมื่อฟันถูกจัดให้เรียงตัวใหม่ ขากรรไกรอาจมีการเคลื่อนตัวไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม ส่งผลให้ใบหน้าดูได้สัดส่วนและสมดุลขึ้น

2. การปรับแนวกราม: ถ้ามีปัญหาการสบฟัน เช่น ฟันล่างคร่อมหรือฟันบนยื่น การจัดฟันจะช่วยปรับแนวกรามให้เข้าที่ ส่งผลต่อใบหน้าที่ดูสมดุลมากขึ้น

3. รูปหน้าในบางกรณี: ในบางกรณี การจัดฟันอาจช่วยให้ส่วนของริมฝีปาก แก้ม และแนวกรามดูเรียวขึ้น โดยเฉพาะถ้าก่อนหน้านี้มีฟันซ้อนเกหรือยื่นออกมามาก

ระยะเวลาในการจัดฟันมักแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพฟันของแต่ละคน โดยทั่วไปแล้วใช้เวลาอยู่ระหว่าง 1.5 ถึง 3 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น:

1. ประเภทของปัญหาฟัน – ถ้าฟันห่าง ฟันเก หรือฟันคุด อาจใช้เวลามากกว่าเคสปกติ
2. ประเภทของอุปกรณ์จัดฟัน – เช่น การจัดฟันแบบโลหะ อาจใช้เวลาน้อยกว่าแบบใส หรือแบบดามอน
3. อายุของผู้จัดฟัน – ผู้ใหญ่อาจใช้เวลานานกว่าเด็ก เพราะฟันของเด็กยังเคลื่อนที่ได้ง่ายกว่า
4. การดูแลและปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์ – หากมาพบหมอฟันตามนัดและดูแลอย่างเหมาะสม จะช่วยให้กระบวนการเป็นไปตามแผน

เพื่อความชัดเจน แนะนำให้ปรึกษาทันตแพทย์เฉพาะทางเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

การจัดฟันครั้งแรกอาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยในช่วงแรก แต่เป็นความเจ็บในระดับที่สามารถทนได้ โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องถอนฟันก่อนเริ่มการจัดฟัน ซึ่งอาจเพิ่มระดับความไม่สบายในช่วงแรก หลังจากใส่เครื่องมือจัดฟัน อาจรู้สึกตึงหรือปวดในช่วงที่ฟันเริ่มเคลื่อนตัว แต่ความรู้สึกนี้มักจะบรรเทาลงในเวลาไม่นาน

ในช่วงเริ่มต้นของการจัดฟัน ควรรับประทานอาหารอ่อนและย่อยง่าย เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม ซุป หรือเต้าหู เพื่อป้องกันความเจ็บหรือระคายเคืองในช่องปาก ควรหลีกเลี่ยงอาหารเหนียว แข็ง หรือกรอบ เพราะอาจทำให้เครื่องมือจัดฟันหลุดหรือเสียหายได้

การจัดฟันสามารถทำได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเริ่มจัดฟันคือช่วงอายุประมาณ 10-14 ปี เนื่องจากเป็นช่วงที่โครงสร้างใบหน้าและขากำลังเปลี่ยนแปลง การจัดฟันในวัยนี้จะช่วยแก้ปัญหาได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การถอนฟันขึ้นอยู่กับสภาพฟันและโครงสร้างช่องปากของแต่ละคน ทันตแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยว่าจำเป็นต้องถอนฟันหรือไม่ ในบางกรณีอาจไม่ต้องถอน ขึ้นอยู่กับวิธีการจัดฟันและปัญหาฟันของแต่ละคน

ในช่วงแรกของการจัดฟัน อาจมีผลต่อการพูดเล็กน้อย เช่น เสียงอาจเปลี่ยนหรือพูดไม่ชัดเจนในบางคำ แต่เมื่อเวลาผ่านไปและปากปรับตัวกับเครื่องมือแล้ว ปัญหาเหล่านี้จะหายไปเอง

รีวิว

ส่วนหนึ่งของรอยยิ้มคนไข้ที่ไว้วางใจให้เราดูแล

เช็คสาขา I Dentist Dental Clinic ใกล้บ้านคุณ พร้อมให้บริการทั่วแบบครบวงจร

iDentist
สาขา
พลัมคอนโด แจ้งวัฒนะ

iDentist
สาขา
รังสิต อเวนิว