ฟอกสีฟัน ฟอกฟันขาว แก้ปัญหาฟันเหลือง

ฟอกสีฟันดีไหม

การฟอกสีฟัน เป็นหัตถการทางทันตกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเพื่อปรับปรุงความขาวของฟัน การจะตอบว่า “ฟอกสีฟันดีไหม” ต้องพิจารณาจากทั้งข้อดีและข้อเสีย รวมถึงความเหมาะสมกับแต่ละบุคคลโดยรวมแล้ว การฟอกสีฟันเป็นการรักษาที่ “ดี” และ “ปลอดภัย” หากทำโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และคุณเองก็ดูแลสุขภาพช่องปากอย่างดี หากคุณสนใจฟอกสีฟัน ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อประเมินสภาพฟันของคุณ และแนะนำวิธีที่เหมาะสมที่สุด

ฟอกสีฟัน ฟอกฟันขาว และ การเคลือบผิวฟันต่างกันอย่างไร

การฟอกสีฟัน และการเคลือบผิวฟัน (หรือที่นิยมเรียกว่า “วีเนียร์”) เป็นหัตถการทางทันตกรรมเพื่อความงามที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งในเรื่องของหลักการทำงาน วัตถุประสงค์ ผลลัพธ์ที่ได้ และวิธีการดำเนินการ ลองมาดูความแตกต่างกัน

ระดับความขาวของฟัน พร้อมชาร์ตเทียบเฉดสีฟัน

การประเมินระดับความขาวของฟันเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนและหลังการฟอกสีฟัน เพื่อให้ผู้ป่วยเห็นภาพความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน และเพื่อช่วยให้ทันตแพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม การฟอกสีฟันจะไม่ทำให้ฟัน “ขาวโอโม่” เหมือนกระดาษในทุกกรณี จุดประสงค์หลักคือการทำให้ฟันขาวสว่างขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและปลอดภัย ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อประเมินสภาพฟันและตั้งความคาดหวังที่สมจริงเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่จะได้รับ

การฟอกสีฟัน และการฟอกฟันขาวเหมาะกับใครบ้าง

การฟอกสีฟัน หรือการฟอกฟันขาว (Teeth Whitening / Bleaching) เหมาะกับบุคคลที่มีลักษณะดังต่อไปนี้

1. ผู้ที่มีฟันเหลืองหรือคล้ำโดยธรรมชาติ เป็นกลุ่มที่เห็นผลได้ดีที่สุด เพราะฟันธรรมชาติมักจะมีเม็ดสีที่สามารถตอบสนองต่อสารฟอกสีฟันได้ดี ฟันที่มีสีเหลืองอมน้ำตาลมักจะตอบสนองได้ดีกว่าฟันที่มีสีเทาหรือฟ้า
2. ผู้ที่มีคราบสีสะสมบนผิวฟันและในเนื้อฟัน เกิดจากการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีเข้มเป็นประจำ เช่น ชา กาแฟ ไวน์แดง น้ำอัดลมสีเข้ม เกิดจากการสูบบุหรี่ เกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้ชั้นเคลือบฟันบางลงและเนื้อฟันที่มีสีเหลืองเข้มขึ้น
3. ผู้ที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจและเสริมบุคลิกภาพ ฟันที่ขาวสะอาดช่วยให้รอยยิ้มดูสดใสและน่าประทับใจยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อความมั่นใจในตนเองและบุคลิกภาพโดยรวม

ควรเลือกฟอกสีฟันแบบไหนดี

การตัดสินใจขึ้นอยู่กับความต้องการและข้อจำกัดของคุณ

• ถ้าต้องการฟันขาวเร่งด่วน เห็นผลทันที ฟอกสีฟันในคลินิก เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เหมาะสำหรับผู้ที่มีงานสำคัญที่ต้องไปออก หรือต้องการเห็นผลลัพธ์ชัดเจนในครั้งเดียว
• ถ้ามีงบประมาณจำกัด และไม่รีบเร่ง ฟอกสีฟันที่บ้าน เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและสะดวกสบาย หากคุณมีวินัยในการทำอย่างต่อเนื่อง
• ถ้าต้องการผลลัพธ์สูงสุดและคงความขาวได้นาน การฟอกสีฟันทั้งในคลินิกร่วมกับการฟอกสีฟันที่บ้าน (In-Office + Home Bleaching) เป็นวิธีที่แนะนำมากที่สุด เพราะจะได้ความขาวอย่างรวดเร็วจากคลินิก และใช้ชุดฟอกที่บ้านเพื่อคงความขาวหรือเพิ่มระดับความขาวให้ได้ตามต้องการ

การฟอกสีฟันอยู่ได้นานไหม

การฟอกสีฟันไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่คงอยู่ถาวรไปตลอดชีวิต สีฟันที่ขาวขึ้นหลังจากการฟอกสีฟันจะค่อยๆ จางลงไปตามกาลเวลา ซึ่งระยะเวลาที่สีฟันจะคงความขาวอยู่ได้นั้นแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย  การฟอกสีฟันสามารถช่วยให้ฟันขาวขึ้นได้อย่างเห็นผล แต่การดูแลรักษาหลังการฟอกสีฟันเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยยืดอายุความขาวให้นานที่สุด 

โดยทั่วไป ฟันที่ฟอกสีฟันแล้วจะคงความขาวได้นานประมาณ

• 6 เดือน – 1 ปี เป็นระยะเวลาทั่วไปที่สีฟันยังคงความขาวอยู่ได้ดี
• 1 – 2 ปี (หรือนานกว่านั้น) หากมีการดูแลรักษาที่ดีเยี่ยม และพฤติกรรมการบริโภคอาหารที่เหมาะสม

ข้อจำกัดของการฟอกฟันขาว

แม้ว่าการฟอกสีฟันจะเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพในการทำให้ฟันขาวขึ้น แต่ก็มีข้อจำกัดที่สำคัญบางประการที่ควรทราบก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษา

1. ไม่สามารถเปลี่ยนสีของวัสดุบูรณะฟันได้
2. ไม่สามารถแก้ปัญหาฟันที่เปลี่ยนสีจากบางสาเหตุได้
3. ไม่สามารถแก้ไขรูปร่างฟัน ตำแหน่งฟัน หรือช่องว่างระหว่างฟันได้
4. ไม่เหมาะกับทุกคน (ข้อห้ามในการฟอกสีฟัน)
5. ผลลัพธ์ไม่คงทนถาวร
6. อาจมีอาการเสียวฟันชั่วคราว

อาการและข้อปฏิบัติตัวหลังฟอกสีฟันขาว

แน่นอน  การทราบถึงอาการที่อาจเกิดขึ้นและข้อปฏิบัติตัวที่ถูกต้องหลังฟอกสีฟันขาวเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้การฟื้นตัวเป็นไปอย่างราบรื่น ลดผลข้างเคียง และคงความขาวของฟันไว้ได้นานที่สุด 

1. อาการเสียวฟัน (Tooth Sensitivity)
2. อาการระคายเคืองเหงือก (Gum Irritation)
3. สีฟันด่างขาว (White Spots)
4. อาการเจ็บคอหรือรู้สึกไม่สบายในลำคอ (Sore Throat/Discomfort)

ข้อปฏิบัติตัวหลังฟอกสีฟันขาว (สิ่งสำคัญที่ต้องทำและหลีกเลี่ยง)

การปฏิบัติตัวหลังฟอกสีฟันมีความสำคัญมากต่อการคงความขาวและลดผลข้างเคียง 

1. การควบคุมอาหารและเครื่องดื่ม ภายใน 24-48 ชั่วโมงแรก ฟันจะมีความพรุนและไวต่อการติดสีได้ง่ายเป็นพิเศษ ควรงดอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีเข้มทุกชนิดโดยเด็ดขาด
2. การจัดการอาการเสียวฟัน หลีกเลี่ยงอาหาร/เครื่องดื่มร้อนจัด เย็นจัด หรือหวานจัด ในช่วงที่มีอาการเสียวฟัน
3. การดูแลสุขอนามัยช่องปาก แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันตามปกติ: แต่ควรทำอย่างเบามือและสม่ำเสมอ เพื่อขจัดคราบและเศษอาหาร งดใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีสี: ในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก
4. การพบทันตแพทย์ มาตามนัดหมาย หากทันตแพทย์นัดเพื่อติดตามผล ปรึกษาทันตแพทย์หากมีอาการผิดปกติ เช่น อาการเสียวฟันไม่หายไป หรือรุนแรงขึ้น เหงือกบวมแดงไม่ลดลง มีตุ่มหนอง หรือมีอาการใดๆ ที่กังวล

การดูแลฟันให้ขาวนาน หลังการฟอกสีฟัน

การ ฟอกสีฟัน ฟอกฟันขาว เป็นการลงทุนเพื่อรอยยิ้มที่สดใส ดังนั้น การดูแลรักษาฟันให้ขาวนานที่สุดหลังการฟอกสีฟันจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อยืดอายุความขาวและรอยยิ้มที่มั่นใจของคุณ นี่คือเคล็ดลับและแนวทางปฏิบัติ

• ในช่วง 2 สัปดาห์แรก ควรระมัดระวังในการดื่มเครื่องดื่ม ที่มีสีเข้ม เช่น ชา กาแฟ ไวน์แดง น้ำอัดลมที่มีสี น้ำผลไม้ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะสีจากเครื่องดื่มเหล่านี้ จะทำให้สีฟันกลับมาเหลืองได้ง่าย หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็แนะนำให้ใช้หลอดในการดื่ม 
• ควรงดอาหารที่มีสีเข้ม เพราะสีจากอาหารเหล่านี้ จะทำให้สีฟันกลับมาเหลืองได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นซอสมะเขือเทศ ซีอิ้ว ช็อกโกแลต และผลไม้พวกเบอร์รี่ 
• ไม่ควรสูบบุหรี่ ในช่วง 7 วันแรกหลังการฟอกสีฟัน เพราะคราบนิโคตินในบุหรี่จะติดที่ผิวฟันได้ง่าย หากไม่สามารถงดได้ ก็ให้แปรงฟันหลังการสูบบุหรี่
• ไม่ควรใช้ยาสีฟัน และน้ำยาบ้วนปากที่มีสี ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังการฟอกสีฟัน
• หลังการฟอกสี เราควรดูแลทำความสะอาดฟันด้วยการแปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำ และควรปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อคงความขาวของฟันไว้ได้นานที่สุด
• หากต้องการให้ฟันขาวมากกว่านี้ หรือ ต้องการคงความขาวของฟันไว้ให้นาน สามารถใช้ชุดฟอกสีฟันที่บ้านในการคงสภาพความขาวของฟันไว้ได้
• ควรตรวจเช็คสุขภาพฟันเป็นประจำทุก 6-12 เดือน ตามคำแนะนำของทันตแพทย์

การ ฟอกสีฟัน ฟอกฟันขาว เป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มความมั่นใจให้กับรอยยิ้มของคุณ แต่ควรทำอย่างเข้าใจและปรึกษาทันตแพทย์ identistclinic เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด @iDentistClinic