ขูดหินปูนฟัน
เลือกหัวข้อขูดหินปูนฟัน
iDentist Dental Clinic
ขูดหินปูนฟัน
ขูดหินปูนครั้งแรก เจ็บไหม? ทำได้หรือไม่? คำแนะนำที่คุณควรรู้จากทันตแพทย์มหิดล
การขูดหินปูน (Dental Scaling) เป็นการรักษาสุขภาพช่องปากที่สำคัญ ช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพเหงือก เช่น เหงือกบวมและอักเสบ ลดกลิ่นปากและคราบเหลืองบนฟัน ที่สำคัญยังช่วยเสริมบุคลิกภาพให้คุณมั่นใจในการยิ้มมากขึ้น ซึ่งในบทความนี้คุณหมอจะแนะนำทุกสิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับการขูดหินปูน ไม่ว่าจะเป็น ขั้นตอนการทำ, วิธีเตรียมตัว, ระยะเวลา, ค่าใช้จ่าย หรือคำถามที่คนไข้มักสงสัย
คุณเคยรู้สึกไม่มั่นใจเพราะฟันเหลืองหรือกลิ่นปากไหม?
หากคุณเคยรู้สึกไม่กล้ายิ้มเพราะฟันมีคราบเหลืองหรือมีกลิ่นปาก คงไม่แปลกที่หลายคนจะพบปัญหานี้ เนื่องจากคราบหินปูนที่สะสมตัวบนฟัน นอกจากจะส่งผลเสียต่อความมั่นใจแล้ว ยังอาจเป็นต้นเหตุของปัญหาสุขภาพช่องปากต่างๆ เช่น เหงือกบวม อักเสบ หรืออาจรุนแรงจนกลายเป็นโรคปริทันต์
แต่ไม่ต้องกังวล เพราะคราบหินปูนที่ฝังแน่นสามารถกำจัดได้ด้วยการขูดหินปูน ซึ่งไม่เพียงแค่ช่วยให้ฟันของคุณกลับมาขาวสะอาด แต่ยังช่วยลดปัญหาสุขภาพช่องปากที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย
ทำไมการขูดหินปูนถึงสำคัญ?
การขูดหินปูนไม่ใช่แค่การทำความสะอาดฟัน แต่เป็นการดูแลสุขภาพช่องปากให้ดีขึ้น ถ้าไม่ขูดหินปูน อาจนำไปสู่ปัญหาที่รุนแรงกว่าที่คิด เช่น โรคเหงือกอักเสบ โรครากฟันอักเสบ หรือโรคปริทันต์ที่ส่งผลต่อการสูญเสียฟันในที่สุด
นอกจากการขูดหินปูนแล้ว มีวิธีไหนที่ช่วยให้ฟันขาวอีกบ้าง?
- วีเนียร์: แผ่นเคลือบผิวฟันที่ช่วยสร้างรอยยิ้มใหม่ให้คุณ
- ฟอกสีฟัน: การฟอกฟันขาวด้วย Cool light LED ที่ช่วยให้ฟันขาวสวยได้เช่นกัน
การขูดหินปูนเป็นวิธีหนึ่งในการดูแลฟันให้สะอาดและสวยงาม แต่ก็ยังมีวิธีอื่นๆ ที่สามารถทำให้ฟันขาวและสุขภาพช่องปากของคุณดีขึ้นได้

ขูดหินปูนคืออะไร และทำไมถึงต้องขูด?
การขูดหินปูนเป็นกระบวนการที่ใช้เครื่องมือทางทันตกรรมในการขจัดคราบหินปูนที่สะสมตามซอกฟันออกไป ด้วยวิธีการขูดหรือการจี้ ซึ่งไม่ใช่ขั้นตอนที่ยุ่งยากหรือใช้เวลานาน ขึ้นอยู่กับปริมาณของหินปูนที่มีและเครื่องมือที่ทันตแพทย์ใช้
คราบหินปูน คืออะไร?
คราบหินปูนเกิดจากการสะสมของแบคทีเรียที่มาจากเศษอาหาร หรือโปรตีนที่ตกค้างในช่องปากจนกลายเป็นแผ่นจุลินทรีย์ ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานก็จะกลายเป็นคราบหินปูน เมื่อเกิดคราบหินปูนแล้ว จะทำให้ฟันไม่สะอาดและอาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคปริทันต์ (โรคเหงือกอักเสบ) ถ้าไม่ทำความสะอาดอย่างเหมาะสม
คราบหินปูนเกิดจากอะไร?
คราบหินปูน หรือที่รู้จักกันในชื่อหินน้ำลาย เกิดจากการสะสมของจุลินทรีย์และเศษอาหารตามซอกฟัน เมื่อสะสมเป็นเวลานานก็จะกลายเป็นคราบหินปูนที่เกาะติดตามซี่ฟัน ซอกเหงือก หรือขอบฟัน ถ้าเป็นคราบเบื้องต้นสามารถขจัดออกได้ง่ายด้วยการแปรงฟันและใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ แต่เมื่อกลายเป็นคราบหินปูนที่แข็งและมีสีเหลืองหรือสีน้ำตาลแล้ว จำเป็นต้องไปพบทันตแพทย์เพื่อทำการขูดหินปูนออก
ขูดหินปูน
1 ครั้ง / 800 – 1,500
ขูดหินปูนขัดเคลือบฟัน
(ด้วยฟลูออไรด์)
1 ครั้ง / 800 – 1,600
ขจัดคราบบนผิวฟันแบบไม่เสียวฟัน (Air How)
1 ครั้ง / 800
เกลารากฟัน เฉพาะบริเวณ
1 ครั้ง / 1,000 – 2,000
การขูดหินปูน ควรทำหรือไม่?
หลายคนอาจสงสัยว่า “ถ้ามีหินปูน ควรไปขูดหินปูนดีไหม?” คำตอบที่เราจะแนะนำคือ “ควรทำ” แน่นอนค่ะ! เพราะถ้าเราไม่จัดการกับคราบหินปูนที่สะสมอยู่ มันอาจทำให้ฟันเริ่มเหลืองและกลายเป็นปัญหาที่รบกวนความมั่นใจในการยิ้ม และที่สำคัญคือถ้าทิ้งไว้นานเกินไป อาจเกิดปัญหาสุขภาพช่องปากตามมาได้ ดังนั้นวันนี้เราจะพาคุณไปดูข้อดีของการขูดหินปูนที่ทุกคนควรรู้กันค่ะ
ข้อดีของการขูดหินปูน
- ลดความเสี่ยงโรคปริทันต์ – การขูดหินปูนช่วยลดโอกาสเกิดโรคต่างๆ ในช่องปาก เช่น เหงือกอักเสบ เหงือกบวม รากฟันอักเสบ หรือแม้กระทั่งโรคมะเร็งในช่องปาก
- เพิ่มความมั่นใจในการยิ้ม – คราบหินปูนที่เกาะฟันเป็นสาเหตุที่ทำให้ฟันเหลือง ซึ่งอาจทำให้คุณรู้สึกไม่มั่นใจ แต่หลังจากขูดหินปูน ฟันของคุณจะดูขาวสะอาดขึ้นทันที
- ยืดอายุฟัน – การขูดหินปูนจะช่วยให้ฟันของคุณแข็งแรงและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงที่ฟันจะต้องหลุดหรือมีปัญหาก่อนเวลา
- ทานอาหารได้อย่างมั่นใจ – ฟันที่ไม่มีหินปูนจะช่วยให้คุณสามารถทานอาหารได้อย่างสบาย ไม่ว่าจะเป็นของแข็งหรือเย็น เช่น ไอศกรีมหรือถั่ว ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องฟันอีกต่อไป
- ลดโอกาสเกิดฟันผุและเหงือกร่น – การขูดหินปูนเป็นการป้องกันที่ดีจากการเกิดฟันผุและเหงือกร่น ซึ่งจะช่วยให้สุขภาพช่องปากของคุณดีขึ้นในระยะยาว
เห็นไหมคะว่าการขูดหินปูนมีประโยชน์มากมาย ถ้ายังลังเลอยู่ ก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องดูแลสุขภาพช่องปากของตัวเอง หากใครที่มีหินปูนสะสมเยอะหรือรู้สึกไม่มั่นใจในรอยยิ้ม ควรรีบไปพบทันตแพทย์เพื่อขูดหินปูนโดยด่วนเลยค่ะ
ขูดหินปูนจำเป็นหรือไม่? ทำไมต้องขูด?
หลายคนมักสงสัยว่า “ทำไมต้องขูดหินปูน? ถ้าไม่ขูดจะเป็นอะไรไหม?” คำถามนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกถามบ่อยมากๆ เนื่องจากบางคนมีความกลัวเมื่อพูดถึงการไปหาหมอฟัน ทั้งกลัวเข็ม กลัวเครื่องมือ หรือกลัวจะเจ็บเวลาขูดหินปูน จึงทำให้ปัญหาสุขภาพช่องปากเริ่มสะสม โดยเฉพาะการมีหินปูนที่ไม่ถูกขูดออก
คำตอบคือ “ไม่ขูดไม่ได้ค่ะ!” เพราะหินปูนเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดโรคเหงือกอักเสบ หรือปริทันต์อักเสบ และยังอาจทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรง เช่น ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ซึ่งเกิดจากสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบในหินปูนที่สามารถเข้าสู่กระแสเลือดและกระตุ้นให้เกิดโรคหัวใจได้ ดังนั้น หากมีหินปูนสะสมอยู่ในช่องปาก การขูดออกจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่ถ้าใครไม่อยากขูดหินปูน ก็สามารถป้องกันได้ด้วยการแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ ใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์ และใช้ไหมขัดฟัน เพื่อช่วยลดการสะสมของหินปูนค่ะ
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าใครๆ ก็สามารถขูดหินปูนได้ทุกคน เพราะบางกลุ่มอาจไม่สามารถขูดได้หรือควรหลีกเลี่ยง ดังนั้นเรามาดูกันว่ามีกลุ่มใดบ้างที่ไม่เหมาะสมกับการขูดหินปูน
ใครที่ไม่ควรขูดหินปูน?
การขูดหินปูนไม่ได้เหมาะกับทุกคน เพราะบางกรณีอาจเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนจากการขูดหินปูน โดยเฉพาะในกรณีของคนที่มีปัญหาสุขภาพบางประการ ดังนี้
- ผู้ที่มีโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไตวาย โรคลูคีเมีย หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของเลือด
- ผู้ป่วยโรคหัวใจ หรือผู้ที่อาจมีอาการเจ็บหน้าอก เหนื่อยง่าย หอบหืด เพราะเครื่องมือขูดหินปูนที่ใช้คลื่นความถี่อาจกระตุ้นการทำงานของหัวใจและทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์
- ผู้ป่วยโรคเหงือก หรือโรคปริทันต์ จะต้องทำการรักษาเหงือกหรือเกลารากฟันก่อนการขูดหินปูน
- สตรีมีครรภ์ สามารถขูดหินปูนได้ แต่หากอายุครรภ์เกิน 3 เดือน ควรปรึกษาทันตแพทย์ก่อนเพื่อความปลอดภัยของทั้งแม่และทารก
หากคุณอยู่ในกลุ่มที่ไม่ควรขูดหินปูน ควรหลีกเลี่ยงการขูดและปรึกษาทันตแพทย์เพื่อหาวิธีดูแลช่องปากที่ปลอดภัย แต่ถ้าคุณไม่มีข้อจำกัดเหล่านี้ ก็สามารถนัดหมายเพื่อขูดหินปูนและดูแลสุขภาพช่องปากได้อย่างสบายใจค่ะ

การเลือกสถานที่ขูดหินปูนที่ดีที่สุด
หากคุณกำลังมองหาสถานที่ขูดหินปูนที่ปลอดภัยและมีคุณภาพสูง เราขอแนะนำให้เลือกไปที่โรงพยาบาลหรือคลินิกทันตกรรมที่ได้รับการรับรองและมีชื่อเสียงในด้านการบริการ โดยทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เฉพาะทาง การเลือกคลินิกเถื่อนหรือไม่มีมาตรฐานอาจเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพช่องปากที่ตามมา ดังนั้นควรศึกษาข้อมูลให้ดีเพื่อความมั่นใจ หากคุณเลือกขูดหินปูนที่ iDentist Dental Clinic คุณจะได้พบกับทีมทันตแพทย์จากมหาวิทยาลัยมหิดลที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูง ทีมทันตแพทย์ของที่นี่รับรองว่าคุณจะได้รับการดูแลอย่างดี ด้วยเครื่องมือและเทคนิคที่ทันสมัย ปลอดภัย และไม่มีปัญหาหลังการรักษา
สามารถขูดหินปูนด้วยตัวเองได้ไหม?
การกำจัดคราบหินปูนที่สะสมตามซอกฟันไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเองค่ะ แม้ว่าการแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟันจะช่วยในการทำความสะอาด แต่คราบหินปูนที่สะสมบนฟันต้องใช้การขูดหินปูนจากทันตแพทย์ที่มีเครื่องมือเฉพาะทาง หากมีใครแนะนำให้ใช้วิธีธรรมชาติเช่นน้ำส้มสายชูหรือเบคกิ้งโซดาในการกำจัดคราบหินปูน ขอให้คุณหยุดเชื่อและแชร์ข้อมูลนี้ เพราะนอกจากจะไม่ได้ผลแล้ว ยังอาจทำให้เนื้อเยื่อในช่องปากเสียหายได้ หากคิดจะใช้ของมีคมแซะหินปูนออกเองก็เป็นความคิดที่ไม่ควรทำ เพราะการขูดหินปูนต้องใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่ทำโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ดังนั้นการป้องกันหินปูนสามารถทำได้โดยการใช้ยาสีฟันที่มีฟลูออไรด์และไหมขัดฟันเป็นประจำ แต่หากต้องการขูดหินปูนควรไปพบแพทย์เท่านั้นค่ะ
วิธีเตรียมตัวและขั้นตอนขูดหินปูนครั้งแรกที่ไม่ต้องกลัว
หลายคนเวลาได้ยินคำว่า “หมอฟัน” คงจะเกิดความรู้สึกตื่นเต้นและกลัวกันไม่น้อย โดยเฉพาะหากเป็นครั้งแรกที่ต้องขูดหินปูน ไม่ต้องห่วงไปค่ะ หมอฟันปัจจุบันใจดีและมือเบาเยอะเลย สำหรับใครที่กำลังจะไปขูดหินปูนครั้งแรก วันนี้เรามีเคล็ดลับการเตรียมตัวและขั้นตอนที่ควรรู้มาฝากค่ะ!
- การเตรียมตัวก่อนขูดหินปูน
ก่อนจะถึงวันนัดหมาย ไปขูดหินปูน ควรเตรียมตัวดังนี้:
- เลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือ: ควรหาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกหรือโรงพยาบาลที่คุณจะไปขูดหินปูน เลือกที่มีความเชี่ยวชาญและได้รับการรับรองจากองค์กรที่เกี่ยวข้อง
- ตรวจสอบราคาบริการ: ก่อนตัดสินใจ ควรเช็กราคาหรือค่ารักษาของแต่ละที่ เพื่อเตรียมงบประมาณได้ถูกต้อง หากคุณมีสิทธิ์ใช้ประกันสังคมก็สามารถตรวจสอบว่าจะใช้สิทธิ์ได้หรือไม่
- พักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนให้เต็มอิ่มในคืนก่อนวันขูดหินปูน จะช่วยลดความวิตกกังวล และทำให้รู้สึกสดชื่นในวันถัดไป อย่าลืมแปรงฟันให้สะอาดก่อนไปพบหมอฟันด้วยนะคะ
- ยาต้านเกล็ดเลือด: หากคุณกำลังใช้ยาต้านเกล็ดเลือด ควรหยุดใช้ยาก่อน 7-10 วัน เพื่อป้องกันเลือดออกมากเกินไปขณะขูดหินปูน
- ขั้นตอนการขูดหินปูน
เมื่อถึงวันนัดหมายแล้ว ขั้นตอนการขูดหินปูนจะไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด! ขอบอกว่าใช้เวลาไม่นาน และแค่รู้สึกเสียวฟันเล็กน้อยเท่านั้นค่ะ
- ตรวจสุขภาพช่องปาก: ก่อนเริ่มขูดหินปูน หมอฟันจะตรวจสุขภาพช่องปากโดยรวมก่อน เช่น ตรวจสอบว่ามีฟันผุหรือเหงือกอักเสบหรือไม่
- การขูดหินปูน: หากตรวจพบหินปูน หมอฟันจะใช้เครื่องมือพิเศษขูดหินปูนออกและกำจัดคราบแบคทีเรียที่อยู่ใกล้เคียง บางคนอาจจะรู้สึกเสียวฟันเล็กน้อย แต่ไม่นานก็จะหาย
- ขัดฟันด้วยแปรงไฟฟ้า: หลังจากขูดหินปูนออก หมอฟันจะใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าพร้อมยาสีฟันพิเศษขัดฟันเพื่อทำความสะอาดและกำจัดคราบที่ตกค้าง
- ใช้ไหมขัดฟัน: หมอฟันจะใช้ไหมขัดฟันอีกครั้งเพื่อลบคราบหินปูนที่อาจหลงเหลืออยู่ตามซอกฟัน ซึ่งอาจทำให้มีเลือดออกเล็กน้อยตามไรฟัน
- บ้วนปาก: เมื่อใช้ไหมขัดฟันเสร็จแล้ว หมอฟันจะให้คุณบ้วนปากเพื่อชำระล้างคราบหินปูนที่หลงเหลือ
- เคลือบฟลูออไรด์: สุดท้าย หมอฟันจะเคลือบฟลูออไรด์บนฟันเพื่อป้องกันการเกิดฟันผุ ซึ่งจะใช้พิมพ์ฟันใส่สารเคลือบแล้วให้กัดค้างไว้ประมาณ 1-2 นาที เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย
การขูดหินปูนครั้งแรกไม่ได้น่ากลัวอย่างที่หลายคนคิด แค่ทำตามขั้นตอนที่กล่าวมา รับรองว่าเสร็จเร็วและฟันจะสะอาดขึ้นมาก นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันปัญหาฟันเหลืองได้อีกด้วย ดังนั้นอย่ากลัวที่จะไปขูดหินปูนกันนะคะ ฟันสวยและสุขภาพช่องปากดีจะช่วยให้คุณยิ้มอย่างมั่นใจได้ตลอดเวลา
ควรขูดหินปูนบ่อยแค่ไหน?
ในช่วงแรกหลังจากการขูดหินปูน ควรเข้าพบทันตแพทย์เพื่อตรวจเช็กและทำความสะอาดช่องปากทุก 2-3 เดือน หากดูแลสุขอนามัยในช่องปากได้ดี ไม่มีอาการเหงือกอักเสบหรือปัญหาสุขภาพช่องปากอื่นๆ ทันตแพทย์อาจนัดให้ขูดหินปูนซ้ำทุก 5-6 เดือน เพื่อให้ฟันของคุณยังคงสะอาดและมีสุขภาพดี แต่ถ้าคุณมีปัญหาสุขภาพช่องปาก หรือเป็นโรคปริทันต์ การขูดหินปูนทุก 3-4 เดือนอาจช่วยให้สุขภาพช่องปากดีขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
วิธีลดคราบหินปูนที่ทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง
เราไม่สามารถขูดหินปูนด้วยตัวเองได้ แต่ไม่ต้องห่วง ยังมีวิธีที่เราสามารถทำเองเพื่อป้องกันไม่ให้หินปูนสะสมและทำให้ฟันเหลืองได้ โดยการป้องกันเป็นกุญแจสำคัญ เช่น
- แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หรือหลังมื้ออาหาร เพื่อขจัดเศษอาหารและลดการสะสมของแบคทีเรีย
- ใช้ไหมขัดฟันเพื่อทำความสะอาดซอกฟันที่แปรงฟันไม่ถึง
- ดื่มน้ำสะอาดเป็นประจำ เพื่อช่วยลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องปาก
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ที่สามารถทำให้ฟันเหลืองและมีกลิ่นปากได้
การดูแลตัวเองหลังการขูดหินปูน
การดูแลช่องปากหลังการขูดหินปูนก็สำคัญไม่แพ้กัน หากไม่ได้ดูแลให้ดี อาจเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น
- หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสจัด หรือเครื่องดื่มที่มีสี เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม และแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้ฟันเหลืองเร็วขึ้น
- สังเกตอาการหลังการขูดหินปูน หากเหงือกมีอาการบวม หรือมีหนอง ควรรีบพบทันตแพทย์เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- หากรู้สึกเสียวฟัน ควรเลือกใช้ยาสีฟันสำหรับฟันเสียว หากอาการยังไม่หายหรือรุนแรงขึ้น ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติม
- หากมีอาการปวดฟันหรือเหงือก ควรทานยาบรรเทาอาการที่ทันตแพทย์แนะนำ เพื่อช่วยลดความเจ็บปวด
- ในกรณีที่ต้องทำการเกลารากฟันหรือขูดเหงือก ควรใช้ยาบำรุงเหงือกตามคำแนะนำของทันตแพทย์
- ควรกลับมาพบทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้
การขูดหินปูนช่วยให้ฟันสะอาด แต่การดูแลสุขภาพช่องปากอย่างต่อเนื่องก็สำคัญไม่น้อย เพื่อให้ฟันและเหงือกของเรามีสุขภาพที่ดีในระยะยาว
ขูดหินปูนเบิกประกันสังคมได้รึเปล่า
ในการทำหัตถการต่าง ๆ เกี่ยวกับทันตกรรมเราสามารถเบิกประกันสังคมได้ค่ะ ไม่ว่าจะ เป็นการถอนฟัน อุดฟันหรือขูดหินปูน ซึ่งจะต้องเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39 และจะต้อง ส่งเงินสมทบเข้ากองทุนอย่างน้อย 3 เดือนถึงจะเบิกได้ โดยไม่จำเป็นต้องสำรองจ่ายในวงเงินไม่ เกิน 900 บาทต่อคนและต่อปี แต่ถ้าใครที่ไม่แน่ใจว่าเราสามารถเบิกได้ไหม ก็สามารถตรวจ สอบสิทธิก่อนได้ค่ะ
Q & A คำถามที่พบบ่อยๆ
ในการขูดหินปูนอาจมีอาการเจ็บหรือเสียวฟันบ้างเล็กน้อย แต่อาการเหล่านี้จะสามารถหาย เองได้
เลือดออกขณะขูดหินปูนถือเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้และสามารถหายได้เอง แต่ถ้า หากหลังขูดหินปูนแล้วเลือดยังไม่หยุดไหลก็ควรรีบไปปรึกษาทันแพทย์เพื่อทำการป้องกันและ รักษาโดยด่วน
ก่อนอื่นเราต้องทราบก่อนว่าอาการฟันโยกมีสาเหตุมาจากอะไร ถ้าหากเกิดจากเหงือกอักเสบเรื้อรังและ กระดูกรอบ ๆ รากฟันถูกทำลายไม่มากหรือฟันไม่โยกมากก็สามารถขูด หินปูนได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์ด้วย
โดยทั่วไปแล้วการขูดหินปูนจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที – 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับปริมาณคราบ หินปูน ลักษณะการเรียงตัวของซี่ฟันของแต่ละบุคคลและสุขภาพช่องปากว่ามีปัญหาอื่นนอก เหนือจากหินปูนหรือไม่
หลังจากขูดหินปูนสามารถทานข้าวได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัดและเครื่องดื่มประเภทชา กาแฟ น้ำอัดลม เพราะอาจจะทำให้ฟันเหลืองเร็ว
แน่นอนค่ะว่าการขูดหินปูนสามารถช่วยลดกลิ่นปากได้ เพราะสาเหตุส่วนหนึ่งของกลิ่นปาก มาจากคราบหินปูนที่เกิดการสะสมในบริเวณช่องปาก
การขูดหินปูนสามารถทำให้ฟันขาวขึ้นได้ไม่มากก็น้อย เพราะคราบหินปูนส่งผลให้ฟันเหลืองและเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก
หินปูน (calculus หรือ tartar) ไม่ได้เกิดขึ้นในทันที แต่เป็นผลมาจากกระบวนการสะสมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่องปาก โดยมีขั้นตอนหลัก ๆ
- การก่อตัวของ “คราบจุลินทรีย์” (Plaque) ทุกครั้งที่เรารับประทานอาหาร โดยเฉพาะอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล แบคทีเรียที่มีอยู่ตามธรรมชาติในช่องปากของเราจะมารวมตัวกับเศษอาหารเหล่านั้น ก่อตัวเป็นฟิล์มเหนียวๆ ไม่มีสี ที่เรียกว่า “คราบจุลินทรีย์” (Plaque) เกาะอยู่บนผิวฟันของเรา
- การแข็งตัวกลายเป็น “หินปูน” (Calculus/Tartar) หากเราแปรงฟันหรือทำความสะอาดคราบจุลินทรีย์ออกไปไม่หมด แร่ธาตุต่างๆ ที่มีอยู่ในน้ำลายของเรา เช่น แคลเซียมและฟอสเฟต จะเข้ามาจับตัวและตกตะกอนบนคราบจุลินทรีย์นั้น ทำให้คราบที่เคยอ่อนนุ่มค่อยๆ แข็งตัวขึ้นจนกลายเป็น “หินปูน”
เรามุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การทำฟันที่ดีที่สุดให้กับคนไข้ทุกคน นี่คือสิ่งที่ทำให้การขูดหินปูนกับเราแตกต่างและเป็นที่ไว้วางใจ การขูดหินปูนที่ iDentist Clinic มีความพิเศษอย่างไร และมีบริการอะไรที่เกี่ยวข้องบ้าง
- ทันตแพทย์และทีมงานผู้เชี่ยวชาญ
- เครื่องมือที่ทันสมัยและใส่ใจในความนุ่มนวล
- บรรยากาศที่ผ่อนคลายและเป็นมิตร
- การให้คำแนะนำเพื่อการป้องกันในระยะยาว
- รีวิวและความไว้วางใจจากคนไข้จริง
การขูดหินปูนเหมาะสำหรับ “ทุกคน” ที่มีฟันธรรมชาติ ตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงผู้สูงอายุ เพราะคราบหินปูนสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าคุณจะดูแลฟันดีแค่ไหนก็ตาม
ขูดหินปูนที่บ้านไม่ได้ การขูดหินปูนด้วยตัวเองนั้นอันตรายและไม่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนที่คลินิกทันตกรรม
หลังขูดหินปูนและขัดฟัน จะช่วยกำจัดคราบสีบนผิวฟัน ทำให้ฟันดูสว่างขึ้นได้ แต่หากต้องการให้ฟันขาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาจต้องพิจารณาการฟอกสีฟันร่วมด้วย
วิธีธรรมชาติเหล่านี้อาจช่วยขจัด “คราบพลัค” หรือคราบจุลินทรีย์ที่ยังไม่แข็งตัวได้บ้าง แต่ ไม่สามารถ กำจัด “หินปูน” ที่แข็งตัวไปแล้วได้ การใช้สารที่มีฤทธิ์กัดกร่อนบ่อยๆ ยังอาจทำลายผิวฟันได้อีกด้วย
เพราะทันตแพทย์มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการประเมินสภาพช่องปาก ใช้เครื่องมือที่ผ่านการฆ่าเชื้อตามมาตรฐาน และสามารถกำจัดหินปูนได้อย่างหมดจดทั้งบนตัวฟันและบริเวณใต้ร่องเหงือกที่มองไม่เห็น ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญในการป้องกันโรคเหงือกอักเสบ นอกจากนี้ หลังขูดหินปูน ทันตแพทย์จะทำการขัดฟันให้เรียบ เพื่อลดการเกาะใหม่ของคราบจุลินทรีย์
เป็นความเชื่อที่ผิด! “ไม่จริงอย่างแน่นอน” เครื่องมือขูดหินปูนที่ทันตแพทย์ใช้ ไม่ได้มีความคมเหมือนสิ่วที่ใช้แกะสลัก แต่ทำงานโดยใช้ “การสั่นสะเทือนความถี่สูง (Ultrasonic)” เพื่อกะเทาะให้หินปูนหลุดออกจากผิวฟัน โดยที่ “ไม่ทำอันตรายต่อเคลือบฟัน” ซึ่งเป็นส่วนที่แข็งที่สุดในร่างกาย
ไม่ต้องกังวลนะคะ ฟันไม่หลุดแน่นอน! อาการนี้เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในคนที่มีหินปูนสะสมเยอะๆ เพราะ…
- “เสาค้ำยันปลอมๆ หายไป” หินปูนที่เกาะพอกพูนระหว่างซี่ฟันมานานๆ จะทำหน้าที่เหมือน “ปูน” ที่ยึดฟันที่เริ่มไม่แข็งแรงไว้ด้วยกันแบบหลอกๆ พอเรากำจัดหินปูนซึ่งเป็นตัวการทำลายกระดูกรอบรากฟันออกไป ฟันจึงกลับมาโยกได้ตามสภาพความเป็นจริงของมัน
- “เหงือกยังไม่ฟิตกระชับ”หลังจากเอาหินปูนออกไป เหงือกที่เคยอักเสบและร่นต้องใช้เวลาสักพักในการฟื้นฟูและกลับมายึดเกาะกับตัวฟันให้แน่นเหมือนเดิม
ขูดหินปูนเสร็จแล้วทานอาหารได้ตามปกติเลยไม่เหมือ
การดูแลความสะอาดอย่างดีเยี่ยมจะช่วย “ชะลอและลดปริมาณ” การเกิดหินปูนได้อย่างมหาศาล แต่การจะทำให้ไม่มีเลย 100% ตลอดชีวิตนั้นเป็นไปได้ “ยากมาก”
เพราะอะไรน่ะหรือคะ?
- จุดอับที่เข้าไม่ถึง ในช่องปากเรามีซอกมุมที่แปรงและไหมขัดฟันเข้าไปไม่ถึงจริงๆ
- น้ำลายของแต่ละคน บางคนมีแร่ธาตุในน้ำลายสูงกว่าปกติ ทำให้คราบจุลินทรีย์แข็งตัวเป็นหินปูนได้ง่ายและเร็วกว่าคนอื่น
- ปัจจัยอื่นๆ เช่น การใส่เครื่องมือจัดฟัน ฟันซ้อนเก ก็เป็นแหล่งที่ทำให้คราบสะสมได้ง่ายขึ้น
เป็นคำถามที่คนไข้บนเตียงทำฟันสงสัยกันทุกคนเลย! เสียง “ขวืดๆ” หรือ “จี๊ดๆ” ที่ได้ยินตอนขูดหินปูน มาจาก “พลังการสั่นของเครื่องมือ” ไม่ใช่การขูดเนื้อฟัน
การขูดหินปูนสำคัญแค่ไหน หากเราปล่อยให้หินปูนสะสมไปเรื่อยๆ โดยไม่ทำอะไรเลย นี่คือสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้
- ขั้นเริ่มต้น (เหงือกอักเสบ) หินปูนคือบ้านของแบคทีเรียที่จะปล่อยสารพิษออกมา ทำให้เหงือกของคุณ บวม แดง ช้ำ และแปรงฟันทีไรก็เลือดออก ตลอดเวลา
- ขั้นกลาง (โรคปริทันต์อักเสบ) การอักเสบจะลุกลามลึกลงไปใต้เหงือก เริ่มทำลาย “กระดูกเบ้าฟัน” ที่เป็นฐานรากของฟัน คุณจะเริ่มมีอาการเหงือกร่น ฟันดูยาวขึ้น และมีกลิ่นปากรุนแรง
- ขั้นรุนแรง (ฟันโยกและสูญเสียฟัน) เมื่อกระดูกเบ้าฟันถูกทำลายไปเรื่อยๆ ฟันจะสูญเสียที่ยึดเกาะที่แข็งแรง เริ่ม โยกคลอนอย่างเห็นได้ชัด อาจมีหนองไหลออกมาจากร่องเหงือก และสุดท้าย… ฟันอาจหลุดออกมาเอง โดยที่ตัวฟันไม่ได้ผุเลยแม้แต่น้อย
โดยทั่วไปแล้ว เด็กเล็กมักจะมีหินปูนสะสมน้อยกว่าผู้ใหญ่ค่ะ แต่ก็ “สามารถมีได้” โดยเฉพาะในเด็กที่อาจแปรงฟันได้ไม่เกลี้ยงเกลาพอ ทันตแพทย์เด็กมักจะไม่ใช้คำว่า “ขูดหินปูน” ที่ฟังดูน่ากลัว แต่จะเรียกว่า “การขัดฟันทำความสะอาด (Polishing)” ซึ่งเป็นการใช้หัวแปรงขนนุ่มกับครีมขัดฟันโดยเฉพาะ เพื่อกำจัดคราบจุลินทรีย์และคราบสีต่างๆ ที่เริ่มเกาะบนผิวฟัน
ควรเริ่มเมื่อไหร่? แนะนำให้พาเด็กๆ ไปพบทันตแพทย์ตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้น หรือไม่เกิน 1 ขวบ เพื่อสร้างความคุ้นเคย และทันตแพทย์จะประเมินเองว่าเมื่อไหร่ที่ควรเริ่มทำความสะอาดฟันแบบมืออาชีพ ซึ่งมักจะเริ่มเมื่อเด็กให้ความร่วมมือได้ดี
เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้ ไม่ได้แปลว่าทันตแพทย์ขูดฟันไม่เกลี้ยง! สาเหตุมาจาก…
- ผิวฟันที่แท้จริง ผิวเคลือบฟันตามธรรมชาติของเราอาจไม่ได้เรียบลื่นเหมือนกระจก 100% เมื่อเทียบกับผิวของหินปูนบางชนิดที่อาจจะเรียบกว่า ความรู้สึกสากเล็กน้อยนี้คือสัมผัสของผิวฟันจริงๆ ของเราที่ปราศจากสิ่งปกคลุม
การปรับสภาพของน้ำลาย หลังขูดหินปูน ต่อมน้ำลายจะเริ่มสร้างชั้นฟิล์มบางๆ (Pellicle) ขึ้นมาเคลือบผิวฟันใหม่อีกครั้ง ซึ่งต้องใช้เวลาเล็กน้อย ในช่วงแรกๆ นี้จึงอาจรู้สึกสาก
- ของว่างที่ทำจากแป้งและมีความเหนียว เช่น ขนมปัง, แครกเกอร์, มันฝรั่งทอด เพราะเศษเล็กๆ ของอาหารพวกนี้จะเข้าไปติดในซอกฟันได้ง่ายและนาน กลายเป็นอาหารชั้นเลิศให้แบคทีเรีย
- เครื่องดื่มรสหวานและน้ำอัดลม น้ำตาลคือสารตั้งต้นสำคัญของคราบจุลินทรีย์ การดื่มบ่อยๆ ตลอดวันก็เหมือนการราดน้ำตาลให้แบคทีเรียเติบโตอยู่ตลอดเวลา
- ภาวะปากแห้ง (Dry Mouth) น้ำลายคือฮีโร่ที่ช่วยชะล้างเศษอาหารและคราบต่างๆ การดื่มน้ำน้อย, การทานยาบางชนิด, หรือแม้แต่การหายใจทางปากบ่อยๆ ทำให้ปากแห้ง หินปูนจึงก่อตัวได้ง่ายขึ้น
- Vaping หรือ บุหรี่ไฟฟ้า ถึงจะไม่มีคราบน้ำมันดิน (Tar) เหมือนบุหรี่มวน แต่สารเคมีในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าหลายชนิดก็ส่งผลเสียต่อสมดุลในช่องปากและสุขภาพเหงือก ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดหินปูนได้เช่นกัน
“ไม่จริงเด็ดขาด!” นี่คือความเชื่อที่อันตรายมาก! หลังขูดหินปูนเสร็จ ช่องปากของเราจะสะอาดมากที่สุด นั่นคือ “นาทีทอง” ของการเริ่มต้นดูแลความสะอาดใหม่ค่ะ หากเราเว้นการแปรงฟันไป 1 วัน คราบจุลินทรีย์ชุดใหม่จะเริ่มก่อตัวขึ้นบนผิวฟันที่เพิ่งทำความสะอาดมาทันที ทำให้เหงือกที่กำลังจะฟื้นตัวกลับมาอักเสบซ้ำได้อีก