บริการอุดฟัน
เลือกหัวข้อบริการอุดฟัน
iDentist Dental Clinic
บริการอุดฟัน
ปวดฟันแบบนี้ไม่ไหวแล้ว!
อาการปวดฟันนี่มันทรมานสุด ๆ เลยใช่ไหมคะ? แต่รู้ไหมว่าเจ้าการปวดฟันนี่มันคือเสียงเตือนจากฟันคุณเองว่า “เฮ้! ดูแลหน่อย!” ซึ่งต้นเหตุอาจมาจากฟันผุ หรือปัญหาอื่น ๆ ที่ถูกละเลย แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ ทุกวันนี้เทคโนโลยีทางการแพทย์ช่วยเราได้เสมอ! หนึ่งในวิธีแก้ปัญหาที่คลาสสิกสุด ๆ คือการ “อุดฟัน” ที่เปรียบเหมือนการซ่อมบ้านก่อนมันพังยับ!
การอุดฟัน คืออะไร
การอุดฟันหรือ ( tooth filling ) คือการใช้วัสดุพิเศษมาทดแทนเนื้อฟันที่เสียไปจากการผุหรือสึกโดยเจ้าวัสดุอุดฟันนี้เองที่จะช่วยป้องกันไม่ให้ฟันของคุณพังต่อไปอีก เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยฟันเราเลยค่ะ
วัสดุอุดฟันมีแบบไหนบ้าง?
ใครที่ไม่เคยอุดฟัน อาจไม่รู้ว่ามีวัสดุอุดฟันให้เลือก 2 แบบหลัก ๆ แต่ละแบบก็มีความโดดเด่นต่างกัน ลองไปดูกันเลยค่ะ!
1. วัสดุอุดฟันสีโลหะ (Amalgam)
เป็นแบบที่เราเห็นบ่อย ๆ เพราะราคาย่อมเยาและทนสุด ๆ วัสดุนี้ผสมมาจากโลหะหลายชนิด เช่น เงิน ดีบุก และปรอทโดยส่วนใหญ่จะใช้กับฟันกราม เนื่องจากสีมันเข้มชัดไม่เหมาะกับฟันหน้าที่ต้องโชว์ยิ้มสวย ๆ
ข้อดีของอุดฟันสีโลหะ
- ราคาเป็นมิตรกับกระเป๋า
- แข็งแรง ทนทาน เคี้ยวอะไรก็ไม่มีพังง่าย ๆ
- ทำง่ายและเร็ว
ข้อเสียของอุดฟันสีโลหะ
- สีเด่นจนใคร ๆ ก็สังเกตเห็น
- ไม่เหมาะกับฟันหน้าที่ต้องเน้นความสวย
2. วัสดุอุดฟันสีเหมือนฟัน (Resin Composite)
ตัวนี้เหมาะมากสำหรับคนที่ใส่ใจเรื่องความงาม วัสดุเป็นสีเดียวกับฟันธรรมชาติ อุดแล้วเนียนจนดูไม่ออกเลยค่ะ แถมเหมาะกับฟันทุกซี่ทั้งฟันหน้าและฟันกราม แต่ขั้นตอนการทำจะละเอียดกว่า เพราะต้องใช้แสงช่วยในการเซตตัววัสดุ
ข้อดีของอุดฟันสีเหมือนฟัน
- สวยธรรมชาติจนแทบดูไม่ออก
- ใช้ได้กับฟันทุกซี่
- เคี้ยวได้ทันที ไม่ต้องรอ 24 ชั่วโมงเหมือนแบบโลหะ
- ปลอดภัย ไม่มีสารปรอท
ข้อเสียของอุดฟันสีเหมือนฟัน
- ราคาสูงกว่าแบบโลหะ
- ทนทานน้อยกว่า
- เกิดคราบง่าย หากกินชาบ่อย ๆ หรือสูบบุหรี่
อุดฟัน
(สีเหมือนฟัน)
ด้านละ 700 – 1,000
อุดฟัน
(สีเงิน)
ด้านละ 700 – 1,000
แล้วทำไมต้องอุดฟัน?
บางคนอาจคิดว่า “แค่ฟันผุนิดเดียว ไม่อุดได้ไหม?” คำตอบคือ ไม่ได้ค่ะ! เพราะรูเล็ก ๆ วันนี้อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่ในวันหน้า ถ้าปล่อยไว้ ฟันอาจผุต่อจนเป็นหนอง เหงือกอักเสบ หรือร้ายแรงถึงขั้นมะเร็งในช่องปากเลยนะคะ!
การอุดฟันจึงเป็นวิธีที่ช่วยหยุดปัญหาไว้ตั้งแต่ต้น ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้ค่ะ แถมทันตแพทย์ยุคนี้ใจดีและมือเบามาก เจ็บนิดเดียวแต่ฟันอยู่กับเรายาว ๆ คุ้มยิ่งกว่าคุ้มค่ะ! อย่าลืมนะคะ สุขภาพฟันดี มีชัยไปกว่าครึ่ง!
การเตรียมตัวก่อนการอุดฟัน
- หากมีโรคประจำตัวหรือทานยาเป็นประจำ อย่าลืมบอกทันตแพทย์และเจ้าหน้าที่ก่อนเริ่มทำการอุดฟันนะ
- ล้างปากและแปรงฟันให้สะอาดก่อนออกจากบ้าน เพื่อให้การตรวจฟันง่ายและสะดวก
- ก่อนเข้ารับการอุดฟัน ควรกินอาหารให้เรียบร้อย เพราะถ้าทำการอุดฟันแบบโลหะ เราต้องรออย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนจะทานอาหารได้
ขั้นตอนการอุดฟัน
การอุดฟันเจ็บไหม? คำถามยอดฮิตที่ใคร ๆ ก็สงสัย! ทุกคนคงคิดว่าไปหาหมอฟันทีไรต้องเจ็บแน่ ๆ แต่จริง ๆ แล้วไม่ต้องกลัวขนาดนั้นหรอกนะ มาดูกันว่า ขั้นตอนการอุดฟันมันง่ายกว่าที่คิดแค่ไหน
- ทันตแพทย์จะเริ่มด้วยการตรวจสุขภาพฟัน ดูว่าฟันผุมากแค่ไหน และสามารถอุดฟันได้ไหม
- ถ้าผุลึกจนใกล้โพรงประสาท ทันตแพทย์จะฉีดยาชาให้ แล้วเริ่มกรอฟันเพื่อเอาฟันผุออกและเตรียมพื้นที่สำหรับวัสดุอุดฟัน
- หลังจากกรอฟันแล้ว ทันตแพทย์จะเติมวัสดุอุดฟันเข้าไปในบริเวณที่ผุ ซึ่งจะมีการอุดฟันแบบโลหะและสีเหมือนฟันที่แตกต่างกัน โดยอุดฟันสีเหมือนฟันจะใช้แสงช่วยในขั้นตอนนี้
- หลังจากเติมวัสดุอุดฟันเสร็จแล้ว ทันตแพทย์จะขัดแต่งให้ฟันสวยและเรียบร้อย พร้อมใช้งานได้ทันที
หากใครสนใจคำแนะนำการอุดฟัน หรืออยากทำการอุดฟันที่ iDentist Dental Clinic เราพร้อมให้คำปรึกษาเสมอ
ข้อดีของการอุดฟัน
การอุดฟันช่วยให้เรายังใช้ฟันซี่นั้นได้เหมือนเดิม ไม่ต้องเสียฟันไป! หมายความว่าไม่ต้องกลัวว่าฟันผุจะลามจนต้องถอนฟันหรือลามไปถึงโพรงประสาทฟันจนเกิดการอักเสบ
ข้อเสียของการอุดฟัน
วัสดุอุดฟันอาจเสื่อมสภาพหรือหลุดได้ ซึ่งอาจทำให้ฟันผุได้อีกครั้ง ดังนั้นหลังการอุดฟันควรรักษาฟันให้ดี และทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
เมื่อไหร่ที่เราควรไปอุดฟัน?
ถ้าคุณเคยสงสัยว่า ฟันกรามที่มีรูหรือฟันกรามที่แตกครึ่งจะสามารถอุดได้หรือไม่? วันนี้เรามีคำตอบ! มาเริ่มกันที่ฟันกรามที่มีรูเลยนะคะ ซึ่งสามารถอุดได้แน่นอน เพราะฟันกรามนั้นเป็นฟันที่ใช้ในการบดเคี้ยวอาหาร ถ้าเสาหลักของการเคี้ยวมีปัญหาก็อาจจะทำให้การบดเคี้ยวอาหารไม่สะดวกได้ แล้วถ้าฟันกรามไม่เป็นรู แต่บิ่นหรือแตกครึ่งล่ะ? สามารถอุดได้ไหม? คำตอบคือ “ได้ค่ะ” ไม่ว่าจะเป็นฟันที่มีรู ฟันบิ่น หรือแตกก็สามารถอุดฟันได้ทั้งหมด และสำหรับคนที่มีฟันห่าง ๆ ก็สามารถอุดให้ฟันดูเรียงสวยขึ้นได้เช่นกัน โดยทันตแพทย์จะใช้วัสดุที่มีสีเหมือนฟันมาทำการอุดให้เข้ารูปพอดี แต่ถ้าใครอยากได้แบบพิเศษหน่อย ก็สามารถทำวีเนียร์เพื่อปิดช่องว่างระหว่างฟันได้ค่ะ
หลังอุดฟันอาจมีอาการยังไงบ้าง?
บางคนอาจจะรู้สึกเสียวฟันหลังจากการอุดฟัน ซึ่งอาการนี้จะหายไปเองใน 1-2 สัปดาห์ • อาจมีอาการปวดฟันได้เช่นกัน แต่ถ้าไม่หายหรือลุกลามไปกว่านี้ ควรไปหาหมอทันที
วิธีดูแลฟันหลังอุดฟัน
ถ้าคุณอุดฟันด้วยวัสดุโลหะ ควรหลีกเลี่ยงการเคี้ยวหรือใช้ฟันที่อุดภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อให้วัสดุแข็งตัวและเข้ารูปได้เต็มที่
- ควรหลีกเลี่ยงอาหารแข็ง ๆ เพราะอาจทำให้วัสดุที่อุดแตกหักได้
- อย่าลืมแปรงฟันอย่างเบา ๆ ด้วยแปรงสีฟันขนนุ่ม หรือใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดระหว่างซี่ฟัน
- หลีกเลี่ยงอาหารที่ร้อนหรือเย็นเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการเสียวฟันได้
- ควรไปพบหมอฟันทุก ๆ 6 เดือน เพื่อเช็คสุขภาพฟันของเรา
อย่าลืมดูแลฟันหลังการอุดเพื่อให้ฟันของคุณอยู่ในสภาพดีและใช้งานได้ยาวนานนะคะ!
ถ้าไม่อยากต้องไปหาหมอฟันบ่อย ๆ หรือโดนถอนฟันอยู่เสมอ ก็ต้องเริ่มดูแลฟันกันให้ดีตั้งแต่ตอนนี้เลยค่ะ! การแปรงฟันเป็นประจำทุกวันช่วยได้เยอะ และที่สำคัญอีกอย่างคือการไปตรวจฟันทุกปีอย่างน้อย 2 ครั้ง เพื่อตรวจเช็กว่าเรามีปัญหาฟันตรงไหนบ้าง ถ้ามีจะได้รีบจัดการซะตั้งแต่เนิ่น ๆ อย่าลืมนะคะว่าเรื่องเล็ก ๆ เหล่านี้ถ้าปล่อยไว้นานไปอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้!
Q & A คำถามที่พบบ่อยๆ
ได้เลย แต่ก่อนที่จะไปจัดฟัน ต้องให้ทันตแพทย์ตรวจสภาพฟันก่อนว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะบางกรณีอาจจะต้องปรับสภาพฟันก่อนการจัดฟัน
ปกติแล้วอุดฟันจะอยู่ได้นาน 10-15 ปี แต่ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาฟันของแต่ละคน ถ้าดูแลดี ๆ ก็อยู่ได้นานเลยแหละ
โดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลาประมาณ 10-30 นาที ขึ้นอยู่กับลักษณะฟันและการทำของทันตแพทย์ แต่ก็ไม่ต้องห่วง ใช้เวลาไม่นานเกินไปแน่นอน
ถ้าอุดฟันแบบสีฟัน (composite) ก็สามารถทานอาหารได้เลย แต่ถ้าเป็นฟันอุดโลหะ (amalgam) ควรหลีกเลี่ยงการเคี้ยวหรือใช้งานฟันซี่ที่อุดประมาณ 24 ชั่วโมง แต่ก็ยังทานน้ำหรืออาหารอ่อน ๆ ได้อยู่
ถ้าคุณดูแลดี ๆ ฟันที่อุดจะไม่หลุดง่าย ๆ หรอก แต่ก็ต้องระมัดระวังไม่ให้เคี้ยวอะไรแข็ง ๆ หรือใช้ฟันที่อุดแรงเกินไปในช่วงแรก
ไม่ต้องกังวล ทันตแพทย์จะใช้ยาชาหรือยาบรรเทาอาการเจ็บระหว่างการอุดฟัน ทำให้คุณแทบไม่รู้สึกอะไรเลย
ถ้าพูดถึงความทนทาน ฟันอุดด้วยวัสดุโลหะ (amalgam) จะทนทานมากกว่าฟันอุดสีฟัน (composite) แต่ฟันอุดสีฟันก็สวยกว่าเหมาะกับฟันที่มองเห็น
การรักษาความสะอาดของฟันที่อุดแบบสีฟันจะง่ายเหมือนฟันธรรมดา แต่ก็ต้องระวังการสะสมคราบอาหารและคราบน้ำตาล เพื่อให้ฟันคงสวยและแข็งแรง
ถ้าฟันที่อุดหลุดไป ควรรีบไปพบทันตแพทย์เพื่ออุดใหม่ โดยทันตแพทย์จะตรวจดูว่าเหตุผลที่ฟันหลุดเกิดจากอะไรแล้วทำการแก้ไขให้ถูกต้อง
การอุดฟันเป็นวิธีรักษาทางทันตกรรมที่พบบ่อยและมีความสำคัญอย่างยิ่งในการดูแลสุขภาพช่องปาก เพื่อช่วยหยุดการลุกลามของปัญหาฟัน
- อาการเสียวฟันที่ไม่หายไป
- อาการปวดฟันเมื่อเคี้ยว (กัดแล้วเจ็บ)
- วัสดุอุดฟันแตก/หลุด
- อาการบวม หรือมีหนอง
สามารถแก้ไขได้ การอุดฟัน (Dental Filling) เป็นวิธีหลักและมีประสิทธิภาพที่สุดในการรักษาปัญหาฟันผุ ฟันบิ่น และการแก้ไขช่องว่างขนาดเล็กระหว่างฟัน
คุณควรรีบไปพบทันตแพทย์ทันที และไม่ควรปล่อยทิ้งไว้เด็ดขาด เพราะจะทำให้ปัญหาลุกลามใหญ่โตขึ้น
ได้แน่นอน! การอุดฟันถือเป็นส่วนสำคัญของการเตรียมความพร้อมของช่องปากก่อนการจัดฟันด้วยซ้ำไป ทันตแพทย์จัดฟันมักจะแนะนำให้ เคลียร์ช่องปาก ให้เรียบร้อยก่อนที่จะเริ่มติดเครื่องมือจัดฟัน
การอุดฟันด้วยวัสดุสีเหมือนฟัน (โดยส่วนใหญ่คือ เรซินคอมโพสิต – Composite Resin) เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสูงมากในปัจจุบัน เนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่สวยงามและเป็นธรรมชาติ วัสดุนี้เหมาะกับคนไข้หลากหลายกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ที่ให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์และต้องการความสวยงาม
สังเกตได้จากอาการเสียวฟันเวลากินของร้อน-เย็น-หวาน, รู้สึกเจ็บเวลาเคี้ยวอาหาร, มีเศษอาหารติดที่ซอกฟันเดิมๆ บ่อยๆ, มองเห็นรูหรือจุดสีดำ/สีน้ำตาลบนตัวฟัน หรือใช้ลิ้นสัมผัสแล้วรู้สึกว่าฟันไม่เรียบ
รูผุจะลุกลามใหญ่และลึกขึ้นเรื่อยๆ จนถึงโพรงประสาทฟัน ทำให้เกิดอาการปวดรุนแรง อาจเกิดการติดเชื้อเป็นหนองที่ปลายรากฟัน และสุดท้ายอาจต้องถอนฟันซี่นั้นทิ้ง
ดีคนละแบบ “สีเงิน” แข็งแรงทนทานและราคาถูกกว่า แต่ไม่สวยงาม ส่วน “สีเหมือนฟัน” ให้ความสวยงามเป็นธรรมชาติ แต่ราคาสูงกว่าและอาจมีอายุการใช้งานสั้นกว่าเล็กน้อย ปัจจุบันวัสดุสีเหมือนฟันเป็นที่นิยมอย่างมากเพราะเรื่องความสวยงาม
โดยทั่วไปคือ ทันตแพทย์จะตรวจและอาจ X-ray, ฉีดยาชา (ถ้าจำเป็น), กรอเนื้อฟันส่วนที่ผุออก, ทำความสะอาดและเตรียมโพรงฟัน, ใส่วัสดุอุดฟันลงไป, ตกแต่งให้ได้รูปร่างที่เหมาะสม และขัดให้เรียบสวยงาม
โดยเฉลี่ยประมาณ 30-60 นาทีต่อซี่ ขึ้นอยู่กับขนาดและความซับซ้อนของรอยผุ
ขึ้นอยู่กับวัสดุ, ตำแหน่งของฟัน, ขนาดของวัสดุ และการดูแลรักษา โดยเฉลี่ยแล้ว อมัลกัม (สีเงิน) อยู่ได้ 10-15 ปี ส่วนคอมโพสิต (สีเหมือนฟัน) อยู่ได้ 5-10 ปี
สัญญาณเตือนคือ วัสดุอุดฟันแตก, บิ่น, ขอบรั่ว, หรือเปลี่ยนสี หรือมีอาการเสียวฟัน/ปวดฟันซี่เดิมขึ้นมาอีกครั้ง การตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำทุก 6 เดือนจะช่วยให้ทันตแพทย์เช็กและพบปัญหานี้ได้เร็ว
ได้ หากดูแลความสะอาดไม่ดีพอ อาจเกิดฟันผุซ้ำตรงบริเวณขอบรอยต่อระหว่างวัสดุอุดกับเนื้อฟันได้ ดังนั้นการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันจึงยังคงสำคัญมาก
ทำได้ หากวัสดุอุดอมัลกัมอันเก่าเริ่มเสื่อมสภาพ หรือหากคนไข้ต้องการเปลี่ยนเพื่อความสวยงาม ก็สามารถให้ทันตแพทย์รื้อของเก่าออกและอุดใหม่ด้วยวัสดุสีเหมือนฟันได้
การอุดฟันคือการ “รักษา” ฟันที่ผุไปแล้ว ไม่ใช่การ “ป้องกัน” การป้องกันฟันผุที่ดีที่สุดคือการดูแลความสะอาดและควบคุมการบริโภคน้ำตาล